ดัชนี SET Index หุ้นไทย เปิดที่ 1,107.68 จุด ลดลง 2.15 จุด หรือ -0.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 205.5 ล้านบาท
โดย บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์อัพ แต่อยู่ในกรอบจำกัด ซึ่งรับ Sentiment บวกจากตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ แม้ว่าจีดีพีสหรัฐไตรมาส 1/68 จะออกมาหดตัวมากกว่าที่ตลาดคาด แต่ตลาดก็ให้น้ำหนักว่าจะเห็นธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดดอกเบี้ยลงได้ ทำให้เป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดหุ้น โดยตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ที่เปิดมาก็ปรับตัวขึ้นตาม
ส่วนในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหลังจากที่รัฐบาลผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งตลาดรับรู้ไปแล้ว ขณะที่ในสัปดาห์หน้ายังต้องลุ้นกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่รับคำร้องเกี่ยวกับคลิปสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีกับสมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ทั้งนี้มองแนวต้าน 1,110-1,115 จุด แนวรับ 1,100-1,105 จุด
ด้าน บล.พาย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 404 จุด +0.9% ได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอจะช่วยสนับสนุนการลดดอกเบี้ยของ FED ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.07% ได้ปัจจัยหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ลดลง โดยรายละเอียดภายในพบว่า การบริโภคขยายตัวเพียง 0.5%QoQ จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 4%QoQ โดยเฉพาะสินค้าคงทน -3.7%QoQ จากไตรมาสก่อนหน้าขยายตัว 12.4%QoQ ผสานกับการนำเข้าที่ขยายตัวมากถึง 38%QoQ จากไตรมาสก่อนหน้าที่ -2%QoQ เชื่อว่าเป็นผลจากการเร่งนำเข้าก่อนเผชิญกับภาษีทรัมป์ แต่นักลงทุนให้น้ำหนักเชิงบวกกับการผ่อนคลายนโยบายการเงิน สะท้อนผ่านการปรับลงของ US Bond Yield พร้อมกับการอ่อนค่าของ Dollar Index ทำให้ CME FED Watch เริ่มเพิ่มโอกาสลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯเป็น 3 ครั้งในปีนี้
ด้านปัจจัยในประเทศมีรายงานจากสื่อฝั่งกัมพูชาว่า ผู้นำของกัมพูชาเตรียมจะเปิดเผยบางอย่างเกี่ยวกับการเมืองในประเทศไทยทำให้เราเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้อาจ Underperform ภูมิภาค เช้านี้ส่วนใหญ่หลายตลาดเปิดแดนบวก รับปัจจัยหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐฯแต่กับประเทศไทยให้รอติดตามสถานการณ์การเมือง โดยประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,090 – 1,115