ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 1,342.18 จุด เพิ่มขึ้น +4.86 จุด หรือ +0.36% มูลค่าการซื้อขาย 2,421.12 ล้านบาท ช่วงเปิดตลาดเช้านี้
ตลาด SET 50 เปิด 826.07 จุด ปรับ +3.76 จุด หรือ +0.46% มูลค่าการซื้อขาย 1,615.71 ล้านบาท ตลาด mai เปิด 374.78 จุด ปรับ +1.87 จุด หรือ +0.50% มูลค่าการซื้อขาย 611.66 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ประเมิน SET แม้ได้ sentiment บวก หลังตัวเลขเปิดรับสมัครงานของสหรัฐต่ำคาด และต่ำสุดรอบ 3 ปี สร้างความหวังการลดดอกเบี้ยเฟด อย่างไรก็ตาม สัญญาณเทคนิคที่เป็นลบ และทิศทาง fund flow ไหลออก ทำให้กรอบบนยังถูกจำกัดที่แนวต้าน 1345-1350 จุด และมีความเสี่ยงหลุดจุดต่ำเดิม 1330 จุด โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1320 จุด
ช่วงสั้นมอง SET ยังเปราะบางและแกว่งตัวในกรอบ โดยในประเทศยังขาดปัจจัยหนุนใหม่และมีปัจจัยการเมืองกดดันบรรยากาศลงทุน ทำให้ SET ยัง Underperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค อย่างไรก็ดี ยังคาดหวังแรงหนุนดัชนีจากผลประกอบการของ บจ.ไทยที่จะเติบโตดีขึ้นตั้งแต่ 2Q67 และปัจจัยต่างประเทศสัปดาห์นี้จะเป็นบวก อาทิ ดัชนี PMI ภาคการผลิต พ.ค. ของจีนและสหรัฐคาดจะปรับตัวดีขึ้น หลังมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง และการประชุมนโยบายการเงินของ ECB ในวันที่ 6 มิ.ย. จะเริ่มมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรก
ด้าน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่า ดัชนีแกว่งตัวตามกรอบ 1,330 -1,350 จุด มองว่าดาวน์ไซด์ในการปรับลงต่อจำกัด ซึ่งวันนี้ไม่มีปัจจัยลบใหม่มากดดัน ขณะที่เมื่อวานนี้มีการเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ของสหรัฐ ที่ระดับ 8.06 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 8.4 ล้านตำแหน่ง สะท้อนว่าภาคแรงงานของสหรัฐเริ่มชะลอความร้อนแรง ซึ่งอาจหนุนให้เงินเฟ้อหรือการปรับลดอัตราดอกเบี้ยง่ายขึ้น
ล่าสุด FedWatch Tool ระบุว่านักลงทุนให้น้ำหนักที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยครั้งแรกเดือนก.ย. ด้วยโอกาสมากกว่า 50% เป็นแรงหนุนต่อหุ้นสหรัฐที่เมื่อวานนี้ปรับขึ้นมา ซึ่งปัจจัยดังกล่าวมองว่าเป็น Sentiment บวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงและ Fund Flow ที่จะไหลออกจากตลาดหุ้นไทยด้วย
ขณะที่ในประเทศปัจจัยหลักมาจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเมื่อวานนี้มีการออกมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว 2 มาตรการ อาทิ มาตรการภาษีกระตุ้นสัมมนาในประเทศ (สำหรับนิติบุคคล) และมาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรอง (สำหรับบุคคลธรรมดา) ซึ่งจะเป็น Sentiment บวกอ่อนๆ กับภาคการท่องเที่ยวและกลุ่มค้าปลีก นอกจากนี้ในระยะถัดไปที่นายกรัฐมนตรีได้มีการเร่งการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ เช่น โครงการ Entertainment Complex ซึ่งถ้าเร่งเกิดได้น่าจะเป็น Sentiment ที่ดีกับการลงทุนเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับ 1,330 จุดและแนวต้าน 1,350 จุด