ดัชนี SET Index หุ้นไทยเปิดวันนี้ที่ 1,289.57 จุด ปรับลง 3.12 จุด หรือ -0.24% มูลค่าซื้อขาย 4,350.57 ล้านบาท
บล.ทิสโก้ ประเมินตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์ดาวน์ โดยมีแรงกดดันจากในประเทศเป็นหลัก หลังวานนี้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 5 ต่อ 4 วินิจฉัยให้ นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี และมีผลให้คณะรัฐมนตรี สิ้นสุดทั้งคณะ ส่งผลให้เข้าสู่สุญญากาศทางการเมือง ซึ่งต้องติดตามดูกระบวนการต่อจากนี้ที่จะมีการนัดโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ตลอดจนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ คาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ซึ่งอาจจะกระทบกับการเบิกจ่ายงบประมาณไปบ้าง
ขณะที่หากเป็นรัฐบาลที่ยังมาจากขั้วอำนาจเดิม คาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ก็น่าจะมีความล่าช้าออกไป แต่คงไม่ถึงกับยกเลิกโครงการอย่างที่หลายคนมีความกังวลกันอยู่
นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง 2 วันติดต่อกัน คาดจะเป็นแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงานวันนี้ด้วย ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้ ตอบรับตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) สหรัฐเมื่อคืนที่ออกมาชะลอตัวตามคาดหนุนความเชื่อมั่นธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้ ให้แนวรับ 1,280-1,270 จุด และแนวต้าน 1,300-1,310 จุด
ด้านบล.อินโนเวสท์ เอกซ์ คาด SET ปรับตัวลง โดยมีปัจจัยการเมืองกดดันดัชนี หลังคำวินิจฉัยศาลฯ ให้นายกฯ ขาดคุณสมบัติ และต้องพ้นตำแหน่ง รวมถึงครม. สร้างสุญญากาศทางการเมือง โดยดัชนีมีแนวรับถัดไปที่ 1,280 และ 1,270 จุด ตามลำดับ ด้านการฟื้นตัวถูกจำกัดที่แนวต้าน 1,300 -1,305 จุด
ช่วงสั้นมอง SET จะยังผันผวน ระหว่างรอความชัดเจนของปัจจัยการเมืองในประเทศจากศาล รธน. ตัดสินคุณเศรษฐาขาดคุณสมบัติของนายกฯ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความคืบหน้าการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจต่างๆ ระหว่างรอ ครม. ชุดใหม่เข้ามาบริหารงานประเทศ
อย่างไรก็ดียังคงคาดหวังตลาดหุ้นไทยจะมีโอกาสได้รับกระแสเงินจาก Fund Flow ที่เริ่มไหลเข้าสู่ตลาด EM มากขึ้น