ดัชนี SET หุ้นไทย ปิดวันนี้ที่ ที่ 1,141.58 จุด เพิ่มขึ้น 2.42 จุด หรือ+0.21% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 26,216.13 ล้านบาท ดัชนีแกว่งแดนบวกตลอดวัน ทำจุดต่ำสุด 1,139.64 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,145.19 จุด
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,120.59 ล้านบาท ปิดที่ 32.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
2.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,115.02 ล้านบาท ปิดที่ 292.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
3.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,037.56 ล้านบาท ปิดที่ 156.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีแกว่งบวกอ่อน ๆ ได้แรงหนุนจากปัจจัยต่างประเทศ หลังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนล่าสุดมีสัญญาณที่ดี กระตุ้น Sentiment การลงทุนเชิงบวก อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยยังถูกกดดันจากแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศรวมทั้งประเด็นการเมืองที่ยังยืดเยื้อ และอาจกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล
โดยวันนี้ดัชนีถูกกดดันจากแรงขายกลุ่มไฟแนนซ์ จากความกังวลคุณภาพสินทรัพย์ที่อาจจะเกิดเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จะขยับขึ้น เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังไม่ดี แต่ก็มีแรงซื้อหุ้นกลุ่ม China Plays เข้ามาช่วยพยุงดัชนี
ทั้งนี้ ปริมาณการซื้อขายตลาดหุ้นไทยค่อนข้างเบาบางมาต่อเนื่อง ทิศทางตลาดเปราะบาง อีกทั้งความเชื่อมั่นในตลาดลดลง จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง ที่อาจได้รับผลกระทบจากการค้าโลกทำให้เศรษฐกิจไทยยังผันผวน ขณะเดียวกันประเด็นการเมืองยังยืดเยื้อไปจนถึงปลายเดือนนี้ หลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งทนายไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามคำสั่งนัดพร้อมหรือนัดไต่สวนในวันที่ 13 มิ.ย. นี้ อีกทั้งประเด็นการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ยังต้องติดตามต่อ
ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดดัชนีแกว่งในกรอบ แนะคืนนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. ของสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) พร้อมมองกรอบแนวรับ 1,130 จุดและแนวต้าน 1,150 จุด