หุ้นไทย ไต่ระดับขึ้นต่อ Sentiment บวกเริ่มมา ลุ้นขึ้นเหนือ 1,200 จุด

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด คาดว่า SET หุ้นไทย แกว่งตัวขึ้นต่อ หลัง Sentiment บวกเริ่มกลับเข้ามา ความเชื่อมั่นเริ่มฟื้น ขณะที่ Fed คงดอกเบี้ยตามคาดและส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยปีนี้อีก 2 ครั้ง กด Bond Yield ปรับลง ทั้งนี้มอง SET หากขึ้นผ่าน 1,200 ได้จะเป็นบวกมากขึ้น ประเมินแนวรับที่ 1,185 – 1,175 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,200 – 1,210 จุด

ช่วงสั้นมอง SET จะฟื้นตัวได้บ้าง หลังดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงแรง 16%YTD แย่สุดในตลาดหุ้นทั่วโลกแล้ว เนื่องจากถูกกดดันทั้งจากกังวลสงครามการค้าและขาดปัจจัยหนุนในประเทศ อย่างไรก็ดีมองว่าแรงขายในภาพรวมน่าจะชะลอตัวลง เนื่องจากมีความชัดเจนของมาตรการลดหย่อนภาษีกองทุน ThaiESGX ซึ่งคาดจะจำกัดแรงขายของ LTF และมีความหวังจากเม็ดเงินลงทุนใหม่ที่จะเข้ามาในเดือน พ.ค.-มิ.ย. 2568 ขณะที่การประชุมนโยบายการเงิน BoJ และ FOMC มีมติคงดอกเบี้ยนโยบาย และคาด BoE จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน โดยยังมีแนวโน้มคงดอกเบี้ยนโยบาย ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

โดยปัจจัยสำคัญ ได้แก่
•FOMC คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 4.25%-4.50% ตามตลาดคาด ส่วนใน Dot Plot เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง รวม 0.50% ในปีนี้ ไม่เปลี่ยนแปลงจากรายงานเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว
•BoJ คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% ตามตลาดคาด และต้องใช้เวลามากขึ้นเพื่อประเมินผลกระทบจากนโยบายภาษีสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจที่พึ่งพาส่งออก ขณะที่ความไม่แน่นอนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
•โครงการบ้านเพื่อคนไทยเฟส 1 เลื่อนเสนอต่อ ครม. ในสัปดาห์หน้าเพื่อเพิ่มรายละเอียดให้ครบถ้วนรอบคอบ และเผยเฟส 2 จะสร้าง 7,000 ยูนิตใน 5 พื้นที่ คือ กม. 11, กาญจนบุรี, ขอนแก่น, ชลบุรี และเชียงใหม่
•ธปท. เตือนแนวคิดซื้อหนี้ประชาชนและล้างเครดิตบูโรจะต้องไม่เกิดปัญหา Moral Hazard และเสนอ 3 หลักการแก้หนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน สนับสนุนวินัยทางการเงิน, สนับสนุนการเข้าถึงสินเชื่อในระยะต่อไป และสร้างความมั่นคงแก่ระบบการเงิน
•สมาคมโรงแรมไทยเผยไม่สนับสนุนการทำโครงการ Entertainment Complex ในจังหวัดท่องเที่ยวหลัก เพราะอยู่ในระดับ Oversupplied และเสนอทำในจังหวัดรอง สร้างจุดหมายปลายทางใหม่ แนะนำทำเลที่ไม่ไกลจาก กทม. เพื่อความสะดวกในการเดินทาง
•EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ในสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้น 1.75 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่ตลาดคาด ขณะที่สต็อกน้ำมันสำเร็จรูปลดลง โดยสต็อกดีเซลลดลง 2.81 ล้านบาร์เรลและเบนซินลดลง 5.27 แสนบาร์เรล
•ตลท. จะขึ้นเครื่องหมาย SP หุ้น GULF และ INTUCH ระหว่างวันที่ 21 มี.ค. – 2 เม.ย. 2568 เพื่อจัดสรรหุ้นสามัญก่อนกลับเข้าเทรดในตลาด

ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET จะมีสัญญาณฟื้นตัวได้บ้าง จากแรงขายที่น่าจะชะลอหลังมีความชัดเจนของมาตรการลดหย่อนภาษีกองทุน ThaiESGX กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1.หุ้นที่คาดเป็นเป้าหมาย ThaiESGX คัดเลือกจาก 1) ปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ YoY 2) มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และ 3) มีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield ปี 2568 อย่างน้อยปีละ 3% พบหุ้น SET50 ที่น่าสนใจ ได้แก่ ADVANC BBL BDMS CPALL PTT ส่วนหุ้น SET100 ที่น่าสนใจ ได้แก่ AP BCH BTG
2.หุ้นปันผลคุณภาพดี มีคุณสมบัติ 1) สถิติจ่ายปันผลต่อเนื่องอย่างน้อย 20 ปีขึ้นไป และมี SETESG Ratings ตั้งแต่ระดับ A-AAA 2) คาดจ่ายเงินปันผลจากกำไรปี 2567 หลังหักจ่ายระหว่างกาลแล้ว ยังให้ Div. Yield สูงเกิน 4% และ Div. Payout Ratio มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหรือทรงตัว และ 3) ปี 2568 ผลประกอบการยังแข็งแกร่ง และราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside เกิน 15% แนะนำ AP KTB BBL SPALI KBANK
3.หุ้น Undervalued สำหรับลงทุน คัดเลือกหุ้น SET100 ที่คาดเป็นเป้าหมายของกองทุน มีคุณสมบัติ 1) ปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ YoY 2) ฐานะการเงินแข็งแกร่ง และมีความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ยสูง (Interest Coverage ratio > 1) 3) Valuation ไม่แพง ปัจจุบันซื้อขายที่ PER และ PBV 2568F ระดับต่ำกว่า -1SD 4) ศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield ปี 2568 อย่างน้อยปีละ 2% และ 5) มี SETESG Ratings ระดับ A-AAA แนะนำ CPALL BDMS MTC MINT BTG

โดยหุ้นน่าสนใจ ได้แก่ MINT: มองเป็นหุ้น Undervalued ที่คาดเป็นเป้าหมายกองทุน ThaiESGX มี SETESG Rating ระดับ AA ปี 2568 คาดกำไรปกติจะเติบโต 10%YoY มาอยู่ที่ 9.2 พันลบ. และ 1Q68 มองมีโอกาสจะรายงานกำไรปกติเล็กน้อย (+YoY, -QoQ) เนื่องจากช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจโรงแรมในยุโรปจะถูกชดเชยโดยธุรกิจโรงแรมในไทยที่แข็งแกร่งและดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง และ CPALL: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากคาดเป็นหนึ่งในเป้าหมายกองทุน ThaiESGX มี SETESG Rating ระดับ AAA กำไร 1Q68 คาดเติบโต YoY แรงหนุนจาก SSS และมาร์จิ้นที่ปรับตัวดีขึ้น ส่วนกำไรปี 2568 จะเติบโตดีเป็นอันดับสองในกลุ่มพาณิชย์ที่ 16% โดยการเติบโต 11% จะมาจากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้นจากธุรกิจ CVS และ 5% มาจาก CPAXT

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles