วันนี้ 11 มิถุนายน 2025 สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความเกี่ยวกับนายหาน จื้อเฉียง อดีตเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เขียนบทความจีนไทยพี่น้องกัน ร่วมกันมุ่งสู่อนาคต มีดังนี้
เวลาช่างผ่านไปเร็วเหมือนติดปีกบิน ข้าพเจ้าได้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยมาเกือบสี่ปี วันนี้ถึงเวลาที่ต้องอำลากับทุกท่านแล้ว ตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เดินทางเยี่ยมเยือนพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย ได้รู้จักและผูกมิตรกับเพื่อนจากหลากหลายวงการ ทั้งได้เข้าร่วมกิจกรรมนับไม่ถ้วนที่ล้วนได้ตอกย้ำคำกล่าวที่ว่า “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน”
ตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้าเป็นสักขีพยานที่ได้เห็นจีนกับไทยได้ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันท่ามกลางพายุฝน ข้าพเจ้ามาเข้ารับตําแหน่งที่ประเทศไทยในเวลาที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงร้ายแรงอยู่ แต่ข้าพเจ้ามีความอบอุ่นและซาบซึ้งใจเมื่อได้ชมคลิปวิดีโอที่ผู้นำไทยกล่าวให้กำลังใจว่า “ประเทศจีนสู้ๆ อู่ฮั่นสู้ๆ ” และเมื่อได้เห็นวัคซีนโควิด-19 งวดแรกจำนวน 2 แสนโดสจากจีนได้ส่งมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ สิ่งเหล่านี้ส่อให้เห็นถึงน้ำใสใจจริงที่ทั้งสองประเทศมีต่อกันในยามทุกข์ยาก แม้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นภัยพิบัติครั้งใหญ่ แต่ความร่วมมือร่วมใจในการต่อสู้กับโควิด-19 ได้ช่วยส่งเสริมให้มิตรภาพระหว่างประชาชนของเราทั้งสองมีความสนิทสนมและแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
ตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้าเป็นสักขีพยานที่ได้เห็นความสัมพันธ์จีน-ไทยได้ยกระดับให้สูงอีกภายใต้การนำของผู้นำทั้งสองประเทศ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีพ.ศ. 2565 ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เดินทางเยือนไทย ซึ่งนับเป็นการเยือนที่มีความสำคัญเชิงประวัติศาสตร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชปฏิสันถารกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ฉันท์เพื่อนมิตร ระหว่างการเยื่อนคราวนั้น ผู้นำทั้งสองประเทศได้ประกาศว่า จีนและไทยที่จะร่วมกันสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน เพื่อนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น ข้าพเจ้ามีความรู้สึกอย่างยิ่งว่าประตูสู่ยุคใหม่ของความสัมพันธ์จีน-ไทยได้เปิดต่อหน้าเราแล้ว
ตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้าเป็นสักขีพยานที่ได้เห็นการพัฒนาอย่างรวดเร็วของความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์ร่วมกันระหว่างจีน-ไทยได้สร้างประโยชน์สุขให้กับประชาชนของทั้งสองประเทศเป็นอย่างมาก จีนและไทยเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่สำคัญของกันและกัน หลายปีมานี้ จีนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย เป็นหนึ่งในแหล่งลงทุนต่างประเทศที่สำคัญที่สุดของไทย และเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของไทย
เมื่อเร็วๆ นี้ ข้าพเจ้าได้ไปเยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรม WHA และได้รับทราบว่า บริษัทจีนในนิคมแห่งนี้ ส่วนใหญ่มีการจ้างงานคนไทยสูงกว่า 90% และได้ร่วมมือกับบริษัทไทยอย่างใกล้ชิดทั้งในด้านการผลิตและห่วงโซ่อุปทาน และได้ส่งออกสินค้าไปยังทั่วโลก ซึ่งได้สร้างประโยชน์ที่เป็นชิ้นเป็นอันให้กับการพัฒนาของประเทศไทยและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทย
ระหว่างการเดินทางครั้งนั้น ข้าพเจ้ายังได้ไปเยี่ยมสวนทุเรียนที่จังหวัดระยองด้วย ชาวสวนได้บอกข้าพเจ้าด้วยความตื่นเต้นว่า ปีนี้มีผลผลิตทุเรียนจำนวนมาก และราคาก็เพิ่มขึ้นด้วย ทุเรียนที่เก็บในวันนั้นก็ถูกซื้อไปทั้งหมดแล้ว จะส่งไปถึงตลาดจีนภายในสามวัน ข้าพเจ้าได้ยืนยันกับเขาว่า ฝ่ายจีนยินดีที่จะเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้ากับไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และยินดีรับซื้อสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพสูงจากประเทศไทยเข้าสู่ตลาดจีนเป็นจำนวนมากขึ้น
ตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้าเป็นสักขีพยานที่ได้เห็นบทใหม่ของมิตรสัมพันธ์ที่สนิทใกล้ชิดฉันท์เครือญาติระหว่างจีนไทย ประเทศเราทั้งสองได้เข้าสู่ “ยุคฟรีวีซ่า” และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการไปมาหาสู่กันระหว่างประชาชนสองประเทศได้ก้าวสูงสุดขึ้นอีกระดับ ภาพยนตร์ไทยเรื่อง “หลานม่า” ได้รับความนิยมในทั้งสองประเทศ ข้าพเจ้าและเพื่อนร่วมงานในสถานทูตจีนได้ไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยกัน พวกเรามีความประทับใจอย่างยิ่งต่อประเพณีและวัฒนธรรมตลอดจนความสัมพันธ์ทางสายเลือดที่มีอยู่ร่วมกันของทั้งสองประเทศ ปัจจุบัน การเรียนภาษาจีนได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทย โรงเรียนไทยที่เปิดสอนภาษาจีนมีมากกว่า 3,000 แห่ง โดยมีนักเรียนไทยที่กำลังเรียนภาษาจีนอยู่มีมากกว่า 1 ล้านคน ครูและผู้อาสาสมัครชาวจีนที่เดินทางมาสอนภาษาจีนที่ประเทศไทยมีมากกว่า 20,000 คน จีนและไทยต่างมีนักเรียน 30,000 กว่าคนที่กำลังศึกษาอยู่ในอีกประเทศหนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศขึ้นอยู่กับความใกล้ชิดกันระหว่างประชาชน การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการไปมาหาสู่กันระหว่างประชาชนที่คึกคักมากนั้น ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมีความสนิทใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นทุกวัน
การดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยนั้น นับเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดในอาชีพนักการทูตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีความชื่นใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อการกระชับความสัมพันธ์จีน-ไทย ปีนี้ตรงกับวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีน-ไทย และการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศกำลังยืนอยู่ในจุดเริ่มต้นใหม่ทางประวัติศาสตร์ ทุกว้นนี้ สถานการณ์ระหว่างประเทศมีความสลับซับซ้อนและแปรปรวนอย่างรวดเร็ว ความสัมพันธ์จีน-ไทยที่เคารพซึ่งกันและกัน ไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และมุ่งสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันนี้ ได้สอดคล้องกับผลประโยชน์ที่แท้จริงของทั้งสองประเทศและเป็นที่ปรารถนาของประชาชนของเราทั้งสองอีกด้วย ข้าพเจ้าจึงเชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์จีน-ไทยจะมีอนาคตที่สดใสงดงามมากยิ่งขึ้น