นายอิสระ บุญยัง ประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ทุกวันนี้ อสังหาริมทรัพย์ในไทย เช่น บ้านราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท กินสัดส่วนมากกว่า 85% ของการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นบ้านมือหนึ่ง และบ้านมือสอง ดังนั้น สิ่งที่กระทรวงการคลังจะเตรียมนำมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 8 ข้อเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ 9 เมษายน 2567 นั้น จะช่วยกระตุ้นตลาดได้ อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มบ้านมีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จะไม่ผ่านเรื่องกำลังซื้อเปราะบาง กู้ไม่ผ่านสูง
สำหรับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์เข้าสู่ที่ประชุมครม.ในวันนี้ ได้แก่ การลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% และขยับระดับราคาจากไม่เกิน 3 ล้านบาทเป็นไม่เกิน 7 ล้านบาทถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์มาก มาตรการนี้ไม่เพียงกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่ส่งผลไปถึงธุรกิจอื่นๆ อีกมาก เช่น วัสดุก่อสร้าง แรงงาน ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้าน รวมถึงการใช้สาธารณูปโภคต่างๆ
มาตรการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในของธุรกิจรับสร้างบ้าน ที่ผู้สร้างบ้านนำมาลดหย่อนภาษีได้ล้านละ 10,000 บาท สูงสุด 100,000 บาทตามสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างบ้านนั้น จะมีผลดีต่อรัฐบาลจะได้ภาษีมูลค่าเพิ่มกลับไป 7% และภาษีเงินได้ของบุคคลที่เป็นผู้รับจ้างสร้างบ้าน จากเดิมที่จะต้องเสียภาษี หรือภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับบริษัทรับสร้างบ้านอีก 20% มาตรการนี้ถือเป็นการจูงใจให้ผู้ทำธุรกิจรับสร้างบ้านทั้งบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลต้องเข้าสู่ระบบการเสียภาษีมากขึ้น