สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ซึ่งเป็นสื่อด้านเศรษฐกิจ การเงินการลงทุนชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์บัญชีของธนาคารกลางญี่ปุ่น พบว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ใช้เงินสุทธิจำนวนมากถึง 3.5 ล้านล้านเยน หรือกว่า 840,000 ล้านบาทเข้าแทรกแซงค่าเงินเยน และเป็นการเข้าแทรกแซงครั้งที่ 2 ในสัปดาห์นี้ด้วย เนื่องจากมูลค่าดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นไปได้สูงที่ลดต่ำลง 4.36 ล้านล้านเยน หรือกว่า 1.05 ล้านล้านบาท ซึ่งตัวเลขนี้มากกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดเงินญี่ปุ่นมองว่าจะลดลง 833,000 ล้านเยน หรือ 199,920 ล้านบาท
ในขณะที่เมื่อวันจันทร์ที่ 29 เมษายนผ่านมา พบว่า ค่าเงินเยนเทียบดอลลาร์สหรัฐถูกแทรกแซงจากธนาคารกลางญี่ปุ่นเป็นมูลค่า 5.5 ล้านล้านเยน หรือกว่า 1.32 ล้านล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับในเดือนตุลาคมปี 2022 ที่มีการแทรกแซงเงินเยนรวมมูลค่า 5.6 ล้านล้านเยน หรือกว่า 1.34 ล้านล้านบาท
นายอัลวิน ตัน หัวหน้าสายงานกลยุทธ์ ตลาดเงิน ธนาคารอาร์บีซี แคปปิตอล มาร์เก็ต คาดการณ์ว่าค่าเงินเยนมีความเสี่ยงที่จะร่วงลงต่อเนื่องไปแตะระดับลึกสุดที่ 165 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะทำสถิติเงินเยนอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 38 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1986 สาเหตุจากค่าเงินเยนตกเป็นเป้าของความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางญี่ปุ่นกับสหรัฐ นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ค่าเงินเยนเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงมากถึง 9% กลายเป็นสกุลเงินที่ให้ผบตอบแทนตกต่ำเลวร้ายที่สุดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว
ย้อนกลับไปเมื่อ วันที่ 29 เมษายน 2024 เวลา 12.20 น. ตามเวลาญี่ปุ่น หรือตรงกับ 10.20 น. เวลาไทย ค่าเงินเยนเทียบดอลลาร์สหรัฐร่วงอ่อนค่ามาลึกสุดถึง 160.03 ทำสถิติอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 34 ปีครั้งใหม่ หรือนับตั้งแต่แต่เมษายนปี 1990 เป็นต้นมา ซึ่งในครั้งนั้นค่าเงินเยนอ่อนค่าลงแตะระดับ 160.15 ต่อดอลลาร์สหรัฐ
สาเหตุจากเมื่อวันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2024 ผ่านไป ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ช่องว่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยสหรัฐและญี่ปุ่นยังคงทรงตัว แต่มีแนวโน้มชัดเจนว่า โอกาสการปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะล่าช้าออกไปอีกถึง 3-4 เดือนจากเดิมที่คาดว่าจะลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิถุนายนนี้
