บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด คาด SET แกว่งในกรอบรอประเด็นใหม่ หลังขึ้นมาตอบรับ Sentiment บวกไปพอควรแล้ว คาดตลาดกลับมาให้น้ำหนักการเมืองในประเทศที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ต้นสัปดาห์หน้า ทั้งนี้มอง SET หากยังไม่ผ่าน 1,200 จุด อาจพลิกกลับมาลงได้ต่อ ประเมินแนวรับที่ 1,170 – 1,160 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,190 – 1,200 จุด
ช่วงสั้นมอง SET จะฟื้นตัวได้บ้าง หลังดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงแรง 16%YTD แย่สุดในตลาดหุ้นทั่วโลกแล้ว เนื่องจากถูกกดดันทั้งจากกังวลสงครามการค้าและขาดปัจจัยหนุนในประเทศ อย่างไรก็ดีมองว่าแรงขายในภาพรวมน่าจะชะลอตัวลง เนื่องจากมีความชัดเจนของมาตรการลดหย่อนภาษีกองทุน ThaiESGX ซึ่งคาดจะจำกัดแรงขายของ LTF และมีความหวังจากเม็ดเงินลงทุนใหม่ที่จะเข้ามาในเดือน พ.ค.-มิ.ย. 2568 ขณะที่การประชุมนโยบายการเงิน BoJ FOMC และ BoE มีมติคงดอกเบี้ยนโยบาย ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
โดยช่วงสั้นมอง SET จะมีสัญญาณฟื้นตัวได้บ้าง จากแรงขายที่น่าจะชะลอหลังมีความชัดเจนของมาตรการลดหย่อนภาษีกองทุน ThaiESGX กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1.หุ้นที่คาดเป็นเป้าหมาย ThaiESGX คัดเลือกจาก 1) ปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ YoY 2) มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และ 3) มีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield ปี 2568 อย่างน้อยปีละ 3% พบหุ้น SET50 ที่น่าสนใจ ได้แก่ ADVANC BBL BDMS CPALL PTT ส่วนหุ้น SET100 ที่น่าสนใจ ได้แก่ AP BCH BTG
2.หุ้นปันผลคุณภาพดี มีคุณสมบัติ 1) สถิติจ่ายปันผลต่อเนื่องอย่างน้อย 20 ปีขึ้นไป และมี SETESG Ratings ตั้งแต่ระดับ A-AAA 2) คาดจ่ายเงินปันผลจากกำไรปี 2567 หลังหักจ่ายระหว่างกาลแล้ว ยังให้ Div. Yield สูงเกิน 4% และ Div. Payout Ratio มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหรือทรงตัว และ 3) ปี 2568 ผลประกอบการยังแข็งแกร่ง และราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside เกิน 15% แนะนำ AP KTB BBL SPALI KBANK
3.หุ้น Undervalued สำหรับลงทุน คัดเลือกหุ้น SET100 ที่คาดเป็นเป้าหมายของกองทุน มีคุณสมบัติ 1) ปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ YoY 2) ฐานะการเงินแข็งแกร่ง และมีความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ยสูง (Interest Coverage ratio > 1) 3) Valuation ไม่แพง ปัจจุบันซื้อขายที่ PER และ PBV 2568F ระดับต่ำกว่า -1SD 4) ศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield ปี 2568 อย่างน้อยปีละ 2% และ 5) มี SETESG Ratings ระดับ A-AAA แนะนำ CPALL BDMS MTC MINT BTG
หุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ PTTEP: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นหลังสหรัฐฯ ใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้องกับอิหร่านรอบใหม่ และมีสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง แม้ปี 2568 คาดกำไรจะอ่อนแอลง YoY แต่ยังมีงบดุลที่แข็งแกร่ง (มีอัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายต่อทุนน้อยกว่า 0.3 เท่า) แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรราคาไม่เกิน 113 บาท
และ SPALI: มองราคาหุ้นระยะสั้นมีปัจจัยกระตุ้นจาก ธปท. ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ชั่วคราว คาดจะหนุนให้ Presales ดีดตัวขึ้นในช่วงที่มีมาตรการ และน่าสนใจในฐานะหุ้นปันผลคุณภาพดี ปี 2568 คาดมีกำไรเติบโตอย่างน้อย 2%YoY ซึ่งยังไม่รวม Upside จากการผ่อนปรน LTV และมีเงินปันผลจ่ายจากกำไร 2H67 หุ้นละ 0.85 บาท (XD 7 พ.ค.) คิดเป็น Div. Yield 4.9%
ปัจจัยสำคัญได้แก่
•ยูเครนใช้โดรนโจมตีฐานทัพอากาศซึ่งมีเครื่องบินทิ้งระเบิดรัสเซีย ทำให้รัสเซียต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน ส่วนกองทัพอิสราเอลเผยว่ามีจรวดถูกยิงเข้าสู่ตอนกลางอิสราเอลจจากพื้นที่ฉนวนกาซ่า ซึ่งเป็นครั้งแรกที่กลุ่มฮามาสโจมติตอบโต้ครั้งแรกนับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงล่มสลาย
•ธปท. ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ชั่วคราว กำหนดเพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน 100% เพื่อช่วงประคับประคองภาคอสังหาฯ มีผลต่อสัญญาเงินกู้ที่ทำตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2568– 30 มิ.ย. 2569
•รมว. คลังเดินหน้ามาตรการแก้หนี้ NPL สำหรับส่วนที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้บัตรเครดิต-การบริโภค วงเงิน 4.27 แสนลบ. หรือ 35% ของ NPL ทั้งหมด โดยจะทำงานร่วมกันระหว่างลูกหนี้ ธนาคาร ผู้บริหารหนี้ และรัฐบาล
•เครดิตบูโรเผยจากจำนวนลูกหนี้ในระบบ 27 ล้านลูกหนี้ มี 25% ที่เกณฑ์สุขภาพทางการเงินดี, 38% เสี่ยงเป็นหนี้เรื้อรัง และ 17% มีหนี้ NPL หนี้บุคคลธรรมดาลดลง 0.5%YoY จากการปฏิเสธการให้สินเชื่อสูง
•BoE มีมติคงดอกเบี้ยนโยบาย 4.5% ตามที่ตลาดคาดไว้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก, การทำสงครามการค้าของสหรัฐฯ และปรับลดคาดการณ์เติบโตเศรษฐกิจลงสู่ 0.75% จาก 1.50%
•EU เลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ออกไป 2 สัปดาห์ จากเดิมที่จะมีผลในวันที่ 1 เม.ย. เพื่อให้มีเวลาเจรจาเพิ่มเติมกับสหรัฐฯ
•จับตาดีลควบรวมระหว่าง “KTB-TTB” จ่อขึ้นแท่นเบอร์ 1 กลุ่มแบงก์ หนุนสินทรัพย์รวมกว่า 5.36 ล้านลบ. ลดต้นทุนธุรกิจ สร้างโอกาสเติบโตใหม่ และสร้างความแข็งแกร่งบนดิจิทัลแบงกิ้ง