ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า มัทฉะเครื่องดื่มในกระแส ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ตอบโจทย์สุขภาพ มัทฉะมีปริมาณระดับสารต้านอนุมูลอิสระ 1,384 หน่วย/กรัม มากที่สุดเมื่อเทียบกับโกจิเบอร์รี่ 253 ดาร์กชอคโกแลต 227 พีแคน 180 และวอลนัท 135 หน่วย/กรัม
กระแสมัทฉะกำลังมาแรงในไทย คาดว่าในปี 2025 ผงมัทฉะจะมียอดนำเข้าแซงใบชาเขียว การนำเข้าผงมัทฉะและใบชาเขียวของไทยในช่วง 2020 ถึงปี 2024 ในภาพรวมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยการนำเข้าใบชาเขียวจะอยู่เหนือกว่าผงมัทฉะมาตลอดช่วง 4 ปีดังกล่าว โดยมีปริมาณนำเข้ามากกว่า 2,500 ตันในช่วง 4 ปี ขณะที่การนำเข้าผงมัทฉะจะเริ่มจากในปี 2020 น้อยกว่า 1,250 ตัน ขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงช่วงใกล้กลางปี 2024 พบว่าปริมาณนำเข้าผงมัทฉะแซงใบชาเขียว จนกระทั่งเข้าสู่ปี 2025 การนำเข้าผงมัทฉะเพิ่มขึ้นมากกว่าใบชาเขียวอย่างชัดเจน และทิ้งห่างมากขึ้น ทำให้คาดว่าในสิ้นปี 2025 นี้ ปริมาณนำเข้าผงมัทฉะจะมีถึงราว 5,000 ตัน ส่วนปริมาณใบชาเขียวนำเข้าจะลดต่ำลงเหลือราวใกล้ 3,750 ตัน
ย้อนไปในปี 2024 ประเทศไทยนำเข้าใบชาเขียวมากเป็นอันดับที่ 11 ของโลก สัดส่วนการำเข้าใบชาเขียวอยู่ที่ 53% ขณะที่ผงมัทฉะอยู่ที่ 47%
สำหรับมัทฉะ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าโกจิเบอร์รี่ และดาร์กช็อกโกแลตหลายเท่า ซึ่งตอบโจทย์สุขภาพคนไทยขณะที่ยอดเอ็นเกจเมนต์ในโซเชียลมีเดียของมัทฉะในปี 2025 ทะลุ 5.2 ล้านครั้งในไม่ถึง 2 เดือน สะท้อนกระแสนิยมบนโซเชียลโดยเฉพาะ 38% ของความคิดเห็นบนโลกโซเชียลยอมรับว่าชอบความเนียนนุ่มของมัทฉะ