มร.ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เปิดเผยถึงมาตรการ กระบะพี่ มีคลังค้ำ ของ บสย.ว่า อีซูซุชื่นชมต่อแนวคิดของรัฐบาล เป็นเรื่องที่ดีงาม อย่างที่ทราบดีว่าตลาดรถปิกอัพหดตัวลงเนื่องจากข้อกำหนดรัดกุมของบริษัทไฟแนนซ์ ขณะนี้ บสย.อยู่ระหว่างเจรจากับธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ยังไม่ทราบบทสรุป แต่อีซูซุคิดว่ามาตรการดังกล่าวเป็นประโยชน์กับลูกค้ามาก น่าจะมีข้อสรุปในไม่นานนี้ ผลตอบรับจะดีมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับรายละเอียดของบทสรุปรัฐบาลจะประกาศ
โดยคาดว่าจะเป็นรายละเอียดที่ดีพอสมควรสำหรับการกระตุ้นตลาดรถปิกอัพ ส่วนอัตราการค้ำประกันจาก บสย.เราไม่สามารถให้ความคิดเห็นได้ ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ระหว่าง บสย.กับธนาคารต่างๆ ต้องรอรายละเอียดก่อน
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตลาดรถปิกอัพในปีนี้จะยังไม่กระเตื้องขึ้นอย่างรวดเร็ว คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ปีที่แล้วรถปิกอัพมียอดจำหน่ายรวมทั้งตลาด 163,000 คัน ปีนี้คาดว่ารถปิกอัพ อีซูซุ และรถ Isuzu Mu-X (PUP +PPV) จะขายได้รวม 76,000 คัน และรถขนาดกลาง-ใหญ่ (CV) จะได้ 11,000 คัน คาดการณ์ตลาดรวมรถทั้งประเทศจะไป 570,000 คันเท่าปีที่แล้วหรือไม่นั้น คาดว่าน่าจะใกล้เคียงเดิม เนื่องจากสถานการณ์ไฟแนนซ์ยังคงเป็นปัญหาอยู่เหมือนเดิม
เรายังไม่ได้คิดรวมกับแคมเปญของ บสย. สำหรับการลงทุนในระยะ 4 ปี (ค.ศ.2024-2028) จะลงทุน 32,000 ล้านบาท ยังคงเป็นไปดังเดิม สำหรับนโยบายกีดกันการค้าของทรัมป์จะเริ่มวันที่ 2 เมษายน มีผลกระทบ ต่ออีซูซุหรือไม่นั้นยังไม่สามารถประเมินได้ แต่สิ่งที่น่าจะกระทบแน่ๆ คือการผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ต่าง ๆ ไปอเมริกา แต่สำหรับรถยนต์ต้องรอประเมินสถานการณ์อีกที ทั้งนี้ อีซูซุไม่มีส่งออกไป