สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งประเทศเยอรมนี หรือ Verband der Automoblindustrie หรือวีดีเอ เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อเดือนธันวาคม 2023 ที่รัฐบาลเยอรมนีประกาศยกเลิกมาตรการสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีในประเทศเยอรมนีนั้น จะส่งผลให้ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีในประเทศเยอรมนีปี 2024 นี้ มีแนวโน้มชัดเจนว่าจะทำยอดขายลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีติดต่อกัน หรือนับตั้งแต่ปี 2016 ผ่านมา โดยจะมียอดขายตกต่ำมาอยู่ที่ราว 400,000 คันเศษๆ หรือทรุดลงมากถึง 2 หลัก หรือ -14% เทียบกับปี 2023 ซึ่งเป็นปีที่มียอดขายรถอีวีในประเทศเยอรมนีสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่จำนวนกว่า 500,000 คัน
ในขณะที่ตลาดรถอีวีทั่วโลกนั้น วีดีเอคาดการณ์ว่า ค่ายรถยนต์ประเมินภาพรวมตลาดรถอีวีจะชะลอตัวลงอย่างชัดเจน ด้วยการปรับลดเป้าหมายคาดการณ์ยอดขายลงจากปีผ่านมาท่ามกลางความเป็นจริงที่ว่าผู้บริโภคในกลุ่มทั่วไปไม่สามารถซื้อรถอีวีได้คล่องตัวเหมือนช่วงที่ผ่านมา ซึ่งได้รับมาตรการสนับสนุนด้านราคาจากนโยบายของรัฐบาล รวมถึงกลยุทธ์การลดราคาขายรถอีวีของแบรนด์รถอีวีชั้นนำระดับโลก เช่น เทสลา เป็นต้น
นอกจากนี้ ปัจจัยการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่สุดสำหรับการใช้รถอีวีในเยอรมนีอยู่ที่การเพิ่มจำนวนสถานี หรือจุดชาร์จไฟฟ้าแบตเตอรี่ โดยพบว่า เมื่อเดือนตุลาคม 2023 รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมเยอรมนี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีแผนในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศเป็นมูลค่า 6,300 ล้านยูโร หรือ 6,850 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 246,600 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสถานีชาร์จไฟฟ้ารถอีวีให้ครบ 1 ล้านสถานีภายในปี 2030 หรือในอีก 6 ปีหน้า อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวกลับไม่มีความคืบหน้าอย่างที่ควรจะเป็น เมื่อถึงเดือนกันยายน 2023 ปรากฏว่าจำนวนสถานีชาร์จไฟฟ้ารถอีวีตามสาธารณะที่รัฐบาลเยอรมนีกำหนดไว้มีเพียง 105,000 แห่ง หรือคิดเป็น 10.5% ของจำนวนเป้าหมายในอีก 6 ปีข้างหน้า
สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งประเทศเยอรมนี คาดการณ์ว่า หากเยอรมนีจะมีสถานีชาร์จไฟฟ้ารถอีวีครบที่ 1 ล้านคันในปี 2030 นั้น รัฐบาลจะต้องรีบเร่งขยายโครงสร้างพื้นฐานเร็วขึ้นถึง 3 เท่าของระยะเวลาเดิมที่กำหนดไว้ในแผนโดยเริ่มต้นตั้งแต่ปีนี้ทันที ปัจจัยต่อไป คือ ราคาขายรถอีวีที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากมาตรการราคาของรัฐบาลเยอรมนี โดยจำนวนรถอีวีจดทะเบียนทั่วประเทศเยอรมนีเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 พบว่ามีจำนวน 1 ล้านคัน หรือคิดเป็นเพียงแค่ 2% ของจำนวนรถยนต์จดทะเบียนในภาพรวมทั้งหมด ดังนั้น จึงเป็นความท้าทายอย่างมากมายที่ประเทศเยอรมนีจะมีรถอีสีบนท้องถนนถึง 15 ล้านคันในปี 2030 ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์เยอรมนี ยอมรับว่านี่คือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และไม่เป็นจริงแต่อย่างใดที่จะมีจำนวนรถอีวีตามเป้าหมาย
นายแจน เบอร์การ์ด ผู้เชี่ยวชาญวงการตลาดยานยนต์ประเทศเยอรมนี และหัวหน้าที่ปรึกษากลยุทธ์ยานยนต์แห่ง Berylls เยอรมนี กล่าวว่า ความต้องการของผู้บริโภคชาวเยอรมนีที่จะซื้อรถอีวีในปี 2024 นี้ ไม่สู้ดีอย่างชัดเจน ตลาดรถอีวีในระดับบน หรือรถอีวีระดับตลาดพรีเมียมมาถึงจุดเกือบอิ่มตัวอย่างชัดเจน และค่ายรถก็ไม่มีแรงจูงใจที่จะนำข้อเสนอที่ดีให้กับตลาดรถอีวีระดับกลางลงล่างในกลุ่มราคา 25,000 ยูโร หรือ 962,500 บาท หรือกลุ่มตลาดรถอีวีต่ำ 1 ล้านบาท
ด้านค่ายผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ และชื่อดังระดับโลกในประเทศเยอรมนี ล้วนตัดสินใจลดเป้าหมายกำลังการผลิตรถอีวีอย่างชัดเจน อาวดี้(Audi) แบรนด์หรูในค่ายโฟล์คสวาเก้น เอจี ผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่ที่สุดของเยอรมนีและยุโรป ลดกำลังการผลิตรถอาวดี้อีวี ด้านโฟล์คสวาเก้น เอจี ประกาศจุดยืนในการถอยห่างแผนถือสัดส่วนหุ้นในโรงงานผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้ารถอีวี