นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา (ไฮสปีด 3 สนามบิน) วงเงิน 2.24 แสนล้านบาทนั้น ขณะนี้โครงการฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบร่างสัญญาของอัยการสูงสุด ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน คาดแล้วเสร็จราวกลางเดือนมิถุนายนนี้ และเสนอต่อ กพอ.พิจารณาคาดว่าจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เห็นชอบร่างสัญญาฯ ต่อไป คาดว่าจะลงนามแก้ไขสัญญาได้ภายในเดือนสิงหาคม 2568 หลังดีเลย์กว่า 5 ปี
แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อหลายโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในภาคคมนาคมต่างหยุดชะงัก โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งมีการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นเจ้าของโครงการ และมีบริษัทเอเชีย เอราวัน (จำกัด) หรือซีพีเป็นผู้รับสัมปทาน 50 ปี
ส่วนการพัฒนาพื้นที่รวมใน EEC ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ร่วมลงนาม สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ สอวช. ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลง การพัฒนาระบบนิเวศการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษและการพัฒนากำลังคนรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เพื่อร่วมติดตามสถานการณ์ของเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษในพื้นที่อีอีซี พร้อมกับสนับสนุนการลงทุนด้านเทคโนโลยีขั้นสูง นวัตกรรม และยกระดับเครือข่ายด้านการวิจัยและพัฒนาในประเทศ
สำหรับ การส่งเสริมการพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูงตอบโจทย์การลงทุนของภาคผลิตและบริการ ได้แก่ อุตสาหกรรมเชื้อเพลิง ชีวภาพ และเคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร และอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ โดยที่ผ่านมาทำให้เกิดการจ้างงานใหม่กว่า 10,684 อัตรา และมีผู้ผ่านการฝึกอบรม 445,967 คน จาก 1,205 หลักสูตร