อเมซอน เว็บ เซอร์วิส (Amazon Web Services) หรือ AWS ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีอยู่ในเครือของอเมซอน อินคอร์ปอเรชั่น และเป็นธุรกิจบริหารจัดการข้อมูลระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศปลดพนักงานมากกว่าหลายร้อยคนขึ้นไป โดยพนักงานที่เข้าข่ายถูกปลดออกจากงานในรอบนี้จะเป็นพนักงานประจำตามบูธในร้านสาขาของอเมซอน เว็บ เซอร์วิส พนักงานฝ่ายการตลาด และพนักงานฝ่ายขาย
สาเหตุจากผลประกอบการของบริษัท อเมซอน เว็บ เซอร์วิส ในไตรมาสล่าสุดยังคงสร้างความผิดหวัง โดยเฉพาะรายได้ตกต่ำมากจาก 27% มาเหลือเพียง 20% ในไตรมาสที่ 4 ปีผ่านไป ทำให้มีรายได้อยู่ที่ 21,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 791,800 ล้านบาท จากเดิมที่เคยทำรายได้ที่ 21,870 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 809,190 ล้านบาท
ในปี 2022 ผ่านไป อเมซอน อินคอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ อเมซอน เว็บ เซอร์วิส และบริษัทอื่นๆในเครือ ได้ตัดลดค่าใช้จ่ายครั้งประวัติศาสตร์ของอเมซอน ด้วยการปลดพนักงานครั้งใหญ่เท่าที่เคยมีมามากกว่า 27,000 คน พนักงานที่ถูกปลดออกล้วนอยู่ในทุกบริษัทและทุกสายงาน ซึ่งได้รับผลกระทบตลอดระยะเวลา 2 ปีผ่านมาถึงช่วงสิ้นปี 2023 ในปี 2024 อเมซอน อินคอร์ปอเรชั่น ยังคงปลดพนักงานในบริษัทในเครือแทบทุกแห่ง ได้แก่ ทวิชต์(Twitch) ออดิเบิล บายวิธไพร์ม ไพร์มวิดีโอ และเอ็มจีเอ็ม สตูดิโอ
ทั้งนี้ นับตั้งแค่ต้นปีนี้มาถึงวันนี้ บริษัทในอุตสาหกรรมและธุรกิจเทคโนโลยีได้ปลดพนักงานออกรวมกันทั้งสิ้น 57,505 คน จากบริษัทรวมทั้งหมด 229 แห่งทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2023 นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน เดินทางไปเข้าร่วมประชุมเอเปคที่เมืองซาน ฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา และกล่าวว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก 3 ราย ที่มาทำดาต้าเซ็นเตอร์ได้แก่ เอดับเบิลยูเอส(AWS) กู้เกิ้ล และไมโครซอฟท์ ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลไทยว่าจะยกระดับภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทย ให้ได้รับการยอมรับในอนาคตอันใกล้นี้