กระทรวงการต่างประเทศ เกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ระหว่างเดือน ม.ค. – ส.ค. 2025 ชาวเกาหลีใต้ที่ขาดการติดต่อ หรือถูกกักขังหลังจากเดินทางเข้าประเทศกัมพูชา มีจำนวน 330 คน ซึ่งเพิ่มสูงมากขึ้นเมื่อเทียบทั้งปี 2024 ที่มีจำนวนชาวเกาหลีใต้หายไปทั้งหมด 220 คน ในจำนวน 330 คนปีนี้ มีประมาณ 260 คดีในปีนี้ที่ปิดคดีแล้ว หแก๊นั่นหมายถึง ขบวนการมิจฉาชีพถูกตำรวจท้องที่จับกุม หรือได้รับการช่วยเหลือจากตำรวจ หรือหลบหนีออกมาด้วยตนเอง หรือถูกส่งตัวกลับเกาหลีใต้ หรือติดต่อกลับกับทางการหรือครอบครัวแล้ว
อย่างไรก็ตาม เดือน ส.ค. 2025 ชาวเกาหลีประมาณ 80 คนยังคงไม่สามารถติดต่อได้ จึงยังไม่เป็นที่ทราบถึงความปลอดภัยที่แน่ชัด ตัวเลขนี้อ้างอิงจากรายงานที่กระทรวงการต่างประเทศได้รับ และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีความซ้ำซ้อนกับรายงานของตำรวจในประเทศ ตำรวจเกาหลีใต้รายงานว่า มีผู้สูญหายและถูกควบคุมตัวในกัมพูชา 143 รายนับตั้งแต่ปี 2567 โดยมี 52 รายที่ไม่ได้รับการแก้ไข
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมผ่านมา นาง อี อึนจู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล รวมถึงเป็นสมาชิกศาลฎีกา และประธานคณะกรรมการการเติบโตทางเศรษฐกิจ โพสต์ข้อความว่า กัมพูชาได้กลายเป็นแหล่งอาชญากรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวเกาหลีใต้ที่มักเผชิญกับอาชญากรรมและสูญเสียชีวิตอันมีค่า นี่เป็นประเด็นสำคัญที่คณะกรรมการบริหารรัฐกิจและความมั่นคง คณะกรรมการกิจการต่างประเทศและการรวมชาติ คณะกรรมการข่าวกรอง และคณะกรรมการป้องกันประเทศต้องร่วมกันพิจารณา การเสียชีวิตของนักศึกษาชาวเกาหลีอายุ 22 ปีในกัมพูชา แค่คิดถึงอาการหัวใจวายจากการถูกทรมานอย่างแสนสาหัส ก็ทำให้เธอเดือดดาลจนแทบคลั่ง
กัมพูชาต้องถูกกำหนดให้เป็นเขตห้ามเดินทางโดยทันที ประชาชนถูกลักพาตัว ทรมาน และสังหารขณะเดินทาง เราไม่สามารถอนุญาตให้ชาวเกาหลีใต้เดินทางไปยังภูมิภาคที่เต็มไปด้วยมาเฟียอาชญากร เพื่อหาเงินเพียงเล็กน้อยได้ ใครก็ตามที่อ้างว่ากัมพูชาปลอดภัยและเปิดโอกาสให้แสวงหากำไร ควรถูกตั้งข้อสงสัย
หากรัฐบาลกัมพูชาต้องการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว รัฐบาลไม่ควรมุ่งเน้นแต่เรื่องเงินเพียงอย่างเดียว แต่ควรรักษาความปลอดภัยขั้นต่ำไว้ด้วย แทนที่จะเรียกเอกอัครราชทูตกัมพูชามาแสดงความกังวลเพียงอย่างเดียว เราต้องกดดันให้รัฐบาลกัมพูชาดำเนินการสืบสวนเชิงรุก บุคคลที่เกี่ยวข้องต้องถูกอัยการกัมพูชาตั้งข้อหาฆาตกรรม แต่เรื่องนี้ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เราต้องมั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับการประหารชีวิต และต้องจับกุมผู้หลบหนีที่เหลือด้วย
หากวิธีนี้ไม่เพียงพอ ควรพิจารณาใช้มาตรการทางการทูตที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นมาตรการขั้นต่ำสุด มิฉะนั้นความทุกข์ทรมานของนักศึกษาที่เสียชีวิตจะไม่มีวันได้รับการชดใช้ องค์กรอาชญากรรมระหว่างประเทศที่ปฏิบัติการในกัมพูชาโดยพื้นฐานแล้วเป็นกลุ่มก่อการร้าย เช่นเดียวกับมาเฟียหรือกลุ่มโจรระหว่างประเทศ เราจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากองค์กรระหว่างประเทศ ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และรัฐบาลจีนและญี่ปุ่น เพื่อร่วมกันปฏิบัติการกวาดล้างพวกเขา
หากรัฐบาลกัมพูชาตอบสนองอย่างไม่เต็มใจ เราต้องพิจารณาใช้มาตรการทางทหาร รวมถึงมาตรการช่วยเหลือตนเอง เพื่อปกป้องพลเมืองของตนเอง เราต้องแสดงให้โลกเห็นว่า ผู้ที่ก่ออาชญากรรมหรือก่อการร้ายต่อชาวเกาหลีใต้จะต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรงที่สุด
เราต้องระลึกถึงปฏิบัติการรุ่งอรุณอ่าวเอเดนในปี 2011 เพื่อช่วยเหลือชาวเกาหลีใต้ที่ถูกโจรสลัดโซมาเลียลักพาตัว และความพยายามของสหรัฐฯ ในการช่วยเหลือนักศึกษาที่ถูกควบคุมตัวในเกาหลีเหนือในปี 2016
ตำรวจต้องจัดตั้งทีมสืบสวนพิเศษร่วมกับหน่วยข่าวกรองแห่งชาติและหน่วยงานการทูต โดยทำงานร่วมกับตำรวจสากลและตำรวจต่างประเทศเพื่อปราบปรามการฉ้อโกง การลักพาตัว และการฆาตกรรมที่มุ่งเป้าไปที่ชาวเกาหลีใต้ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว หากจำเป็น ควรมีการปฏิบัติการทางทหารร่วมกันเพื่อขจัดอาชญากรรมเหล่านี้ ผู้สมรู้ร่วมคิดภายในประเทศ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับการล่อลวงชาวเกาหลีให้ขายสมุดบัญชีธนาคารปลอม จะต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรงโดยไม่มีข้อยกเว้น
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาชญากรรมที่มุ่งเป้าไปที่ชาวเกาหลีใต้ในกัมพูชาและสามเหลี่ยมทองคำได้เพิ่มสูงขึ้นและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แต่เจ้าหน้าที่กลับเพิกเฉย รัฐบาลยุนซอกยอลเพิกเฉยต่ออาชญากรรมที่เพิ่มมากขึ้นต่อชาวเกาหลีในกัมพูชา โดยมุ่งเน้นเฉพาะภาพถ่ายเฮปเบิร์นของ คิม กอนฮี ภริยา และความเชื่อมโยงระหว่าง ยุน ซอกยอล คิม กอนฮี และโบสถ์แห่งความสามัคคี
ท่ามกลางการตอบสนองอย่างเฉื่อยชาของเจ้าหน้าที่สืบสวน อาชญากรรมกลับเพิ่มสูงขึ้น เป็นเรื่องที่น่าหดหู่ใจอย่างยิ่งที่สงสัยว่าตำรวจและเจ้าหน้าที่สืบสวนอื่น ๆ อาจพยายามปกปิดความเชื่อมโยงนี้หรือไม่ เรื่องนี้ต้องได้รับการแก้ไขโดยทันที เราต้องมั่นใจว่าชาวเกาหลีผู้บริสุทธิ์ในต่างแดนจะรู้สึกได้รับการปกป้องจากชาติของเรา
บัดนี้สาธารณรัฐเกาหลีต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของพลเมืองเหนือสิ่งอื่นใด สะท้อนภาพลักษณ์ของประเทศที่ก้าวหน้าซึ่งจะไม่ประนีประนอมหรือลดทอนความปลอดภัย ประชาชนเรียกร้องให้รัฐบาลสร้างบรรทัดฐานในการดำเนินคดีและลงโทษอาชญากรรมอันโหดร้ายต่อพลเมืองของเรา จะไม่มีการให้อภัยหรือผ่อนปรนโทษใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่อย่างนั้น ประชาชนจะสูญเสียความเชื่อมั่นในรัฐบาลของตน
เราจะเดินหน้าต่อไปเพื่อให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องได้รับการลงโทษอย่างเหมาะสมสำหรับความทุกข์ทรมานของนักศึกษามหาวิทยาลัยที่เสียชีวิตในกัมพูชา และความโศกเศร้าของครอบครัวของ
ทั้งนี้ กรณีการถูกทรมานจนเสียชีวิตของนักศึกษาชาวเกาหลีใต้วัย 22 ปีในกัมพูชา ได้กลายเป็นประเด็นที่ทางการ สื่อ และประชาชนชาวเกาหลีใต้กำลังให้ความสนใจอย่างมาก และต่างพากันออกมาแฉหรือเปิดเผยถึงขอบเขตการฉ้อโกงและอาชญากรรมในกัมพูชาที่มุ่งเป้าไปยังชาวเกาหลีใต้
สำนักข่าว Yonhap ของเกาหลีใต้เปิดเผยบทสัมภาษณ์ เหยื่อ พยาน และคนรู้จัก เกี่ยวกับสถานการณ์ภายในฐานแก๊งมิจฉาชีพอันฉาวโฉ่ของกัมพูชา ฐานแก๊งมิจฉาชีพในกัมพูชามีขนาดแตกต่างกัน โดยก่ออาชญากรรมออนไลน์หลากหลายรูปแบบ เช่น โรแมนซ์สแกม ฟิชชิง และการหลอกลงทุน เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้คนหนึ่งประเมินว่า มีเครือข่ายอาชญากรประเภทนี้ประมาณ 400 เครือข่ายในกัมพูชา
พยานบอกว่า แต่ละภูมิภาคในกัมพูชาไม่ได้เหมือนกันหมด ต่างจากพนมเปญและสีหนุวิลล์ เมืองชายแดนอย่างปอยเปตและบาเวตเป็นหนึ่งในเมืองที่อันตรายที่สุดและเป็นสถานที่สุดท้ายที่ผู้คนจะถูกส่งตัวไป ชาวเกาหลีคนหนึ่งในกัมพูชาเห็นด้วย กล่าวว่า คนที่ทำผลงานได้ไม่ดีในพนมเปญ หรือสีหนุวิลล์ หรือมีหนี้สินในกาสิโน จะถูกขายให้กับปอยเปตหรือบาเวต มีเคสแบบนี้อยู่มากมาย
เกี่ยวกับกรณีล่าสุดที่นักศึกษาชาวเกาหลีใต้วัย 22 ปีที่มีรายงานว่าถูกทรมานจนเสียชีวิตใกล้ภูเขาโบโกในจังหวัดกำปงในเดือน ส.ค. นั้น พยานรายหนึ่งกล่าวว่า ปกติแล้วคนจะไปที่นั่นเพื่อขายบัญชีธนาคาร แต่กลับติดอยู่ที่นั่นและลงเอยด้วยการทำสิ่งผิดกฎหมายหรือแม้กระทั่งเสียชีวิต
การถูกทำร้ายร่างกายและทรมานเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วไปในชุมชนอาชญากรรม ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายร่างกาย มีประมาณ 1 คนเสียชีวิตในแต่ละวัน ไม่ใช่แค่ชาวเกาหลีใต้เท่านั้นที่ตกเป็นเป้าหมาย ยังมีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย และจีน
พยานอีกรายกล่าวว่า เหยื่อบางรายที่ถูกกล่าวหาว่ามีผลการทำงานไม่ดีจะถูกขายเพื่อค้าอวัยวะหลังจากถูกทำร้ายร่างกาย
หากเหยื่อมีหนี้สินและไม่สามารถแสดงผลงานได้ตามที่ต้องการ พวกเขาจะถูกบังคับให้ขายอวัยวะ พวกเขาต้องตัดลูกตาออกก่อน เพราะกระจกตาปลูกถ่ายได้ค่อนข้างง่ายและราคาต่อหน่วยค่อนข้างแพง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ทำให้ทางการเกาหลีใต้ได้ยกระดับ คำเตือนการเดินทางพิเศษ (special travel advisory) สำหรับการเดินทางไปกรุงพนมเปญ มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่ในคืนวันที่ 11 ต.ค. ประธานาธิบดี อี แจ-มยอง ผู้นำเกาหลีใต้ ได้ออกมาให้คำมั่นว่าจะยกระดับการคุ้มครองประชาชน โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทุ่มเทความพยายามทางการทูตอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องพลเมืองเกาหลีใต้จากอาชญากรรมในกัมพูชา นายโจ ยง-ซล โฆษกพรรคพลังประชาชนเกาหลีใต้ (PPP) พรรคแกนนำฝ่ายค้าน ก็ได้ออกมาเรียกให้รัฐบาลดำเนินอย่างเต็มที่ ในการแก้ไขปัญหาลักพาตัวชาวเกาหลี แนะว่าแทนที่จะพึ่งพาช่องทางการทูต รัฐบาลเกาหลีใต้ควรส่งตำรวจลงพื้นที่ ร่วมมือกับอินเตอร์โพลและเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น
วันที่ 13 ต.ค. นายยู แจ-ซอง รักษาการผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (KNPA) เปิดเผยว่า ความร่วมมือระหว่างตำรวจเกาหลีและตำรวจกัมพูชา “ไม่ค่อยราบรื่นนักหากเทียบกับประเทศอื่นๆ ทาง KNPA พยายามยื่นขอความร่วมมือในการสืบสวนอย่างเร่งด่วน ซึ่งรวมถึงการขอเข้าร่วมการชันสูตรศพนักศึกษาที่เสียชีวิต รวมถึงขอเข้าถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว แต่ทางกัมพูชาระบุว่าคำร้องขอนี้ต้องดำเนินการผ่านความร่วมมือทางกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานานและต้องได้รับการเห็นชอบจากกระทรวงยุติธรรมของทั้งสองประเทศอย่างเป็นทางการ
นายยู แจ-ซอง ยังระบุด้วยว่า เป็นไปได้ยากในการประสานความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพ หากอีกฝ่ายไม่ให้ความร่วมมือ แต่ทาง KNPA จะพยายามผลักดันอย่างเต็มที่ ทั้งช่องทางการเยือน ช่องทางระหว่างประเทศ และการกดดันทางการทูต ด้าน KNPA เตรียมเสนอให้มีการจัดตั้ง “Korean Desk”หรือหน่วยเจ้าหน้าที่พิเศษชาวเกาหลีใต้ ประจำการที่สถานีตำรวจในกัมพูชา เพื่อช่วยเหลือดูแลคดีของชาวเกาหลี ซึ่งจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงานตำรวจกัมพูชา ในการประชุมทวิภาคีวันที่ 23 ต.ค.ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ ยกระดับการเตือนภัยให้นักท่องเที่ยวงดเดินทางไปยังกรุงพนมเปญ และอีก 5 จังหวัด คือ อุดรมีชัย, พระวิหาร, บันเตียเมียนเจย, พระตะบอง และสีหนุวิลล์ ไม่รวมอีกหลายจังหวัด ที่มีคำเตือนระดับต่ำกว่า แต่พร้อมยกระดับคำเตือนขึ้นอีกหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น