นายทวีศักดิ์ เผ่าพัลลภ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สินทรัพย์เสี่ยงจะให้ผลตอบแทนโดดเด่นไม่เท่าเดิมในสถานการณ์ที่ดอกเบี้ยยัง มีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงและผ่านพ้นช่วงที่ดีที่สุดของหุ้นไปแล้วควรเน้นจัดพอร์ตแบบ Prudent Asset Allocation หรือการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่หลากหลายแบบรอบคอบตามระดับความเสี่ยง เพื่อช่วยประคองให้ผ่านความผันผวน
ในส่วนของหุ้นเมื่อคาดการณ์ผลตอบแทนในช่วง 5 ปีข้างหน้า หุ้นโลกน่าสนใจกว่าหุ้นไทย จึงแนะนำให้ลดการถือครองหุ้นไทย ส่วนตลาดหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ซึ่งน่าจะหลุดออกจากภาวะเงินฝืดได้อย่างยั่งยืน และมีการปฏิรูปบรรษัทภิบาล หุ้นกลุ่มการเงิน ซึ่งได้ประโยชน์จากค่าธรรมเนียมและการผ่อนคลายกฎระเบียบ โดยใช้กลยุทธ์การลงทุนที่เน้นการเข้าซื้อสินทรัพย์ในช่วงที่ราคาปรับตัวลดลง ชั่วคราวจากแนวโน้มหลัก (Buy on dip) รวมถึงกระจายลงทุนในหุ้น S&P500 Equal Weighted
นอกจากนี้ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีระยะเวลา 3-5 ปี เป็น อีกตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากให้อัตราผลตอบแทนที่สูงและ ช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ต ในภาวะที่ตลาดกลับมากังวลกับเศรษฐกิจ
ในส่วนของตราสารหนี้คุณภาพสูงของไทยที่มีอันดับเครดิต A-ขึ้นไป ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสน ใจสำหรับนักลงทุนในภาวะที่ดอกเบี้ยน่าจะลดลงเพิ่มเติม แต่สำหรับตราสารหนี้ที่มีอันดับ BBB+ ลงมานักลงทุนต้องเลือกลงทุนอย่างระมัดระวัง