ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รายงานดัชนีความเชื่อมั่นความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2567 พบว่าพฤติกรรมและมุมมองการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค ดังนี้
วัตถุประสงค์ในการซื้อที่อยู่อาศัย ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาสที่ 4 ปี 2567 พบว่าประชาชนชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการลงทุน แต่เป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองมากขึ้น โดยผลจากการสำรวจพบว่าผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ (32.1%) ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง อันดับสอง คือ ต้องการซื้อลงทุนเพื่อเก็งกำไร/ให้เช่า (15.8%) และอันดับสาม ซื้อเพื่อเป็นทรัพย์สิน (14.6%)
วัตถุประสงค์ทั้งสามอันดับแรกมีสัดส่วนลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งปัจจัยหลักของความต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เนื่องจากต้องการแยกครอบครัวหรือแต่งงาน มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 8.9% เป็น 10.3% ขณะที่บางกลุ่มต้องการความสะดวกในการเดินทาง มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 8.9 % เป็น 9.0% ต้องการสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 8.1% เป็น 8.5% และต้องการนวัตกรรมบ้านอัจฉริยะ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 3.1% เป็น 3.6% ซึ่งมีแนวโน้มที่ค่อยๆ ขยายตัวเพิ่มขึ้น
ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย พบว่า ส่วนใหญ่มีความต้องการซื้อบ้านเดี่ยว ในระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาทมากที่สุด รองลงมา คือ คอนโดมิเนียม ในระดับราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาท มากที่สุด สำหรับทาวน์เฮ้าส์มีความต้องการซื้อในระดับราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาท มากที่สุด ส่วนบ้านแฝดมีความต้องการซื้อ ในระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาท มากที่สุด และอาคารพาณิชย์มีความต้องการซื้อ 0.2% ต้องการซื้อเพียงระดับราคาเดียว คือ ระดับราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาท
ภาพรวมช่วงราคาของที่อยู่อาศัยที่ต้องการซื้อ ส่วนใหญ่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาท (25.3%) และระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาท (22.8%) ซึ่งทั้งสองช่วงระดับราคาดังกล่าวเป็นกลุ่มระดับราคาหลัก มีสัดส่วนรวมกันถึง 48.1% โดยไตรมาสนี้ผู้ตอบแบบสอบถามมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคา 1.01 – 3.00 ล้านบาท และระดับราคา 5.01 – 7.00 ล้านบาทเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับ ไตรมาสก่อนหน้า (QoQ)
พื้นที่ที่ได้รับความสนใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัย พบว่าอันดับ 1 ได้แก่ กรุงเทพฯ มีสัดส่วนความต้องการที่อยู่อาศัย 56.1% ในระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาทมากที่สุด คิดเป็น 26.2% โดยเฉพาะในทำเลที่เป็นแหล่งเศรษฐกิจ ใกล้แหล่งงาน เช่น บางนา บางแค ลาดพร้าวสุขุมวิท และบางกะปิ อันดับ 2 ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี มีสัดส่วนความต้องการที่อยู่อาศัย 8.7% ในระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาทมากที่สุด คิดเป็น 29.1% อันดับ 3 ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี มีสัดส่วนความต้องการที่อยู่อาศัย 7.2% ในระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาทมากที่สุด คิดเป็น 27.2%
อันดับ 4 ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ มีสัดส่วนความต้องการที่อยู่อาศัย 6.2% ในระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาทมากที่สุด คิดเป็น 29.2% อันดับ 5 ได้แก่ จังหวัดนครปฐม มีสัดส่วนความต้องการที่อยู่อาศัย 3.8% ในระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาทมากที่สุด คิดเป็น 32.1% อันดับ 6 ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร มีสัดส่วนความต้องการที่อยู่อาศัย 2.6% ในระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาทมากที่สุด คิดเป็น 46.7% ในขณะที่จังหวัดอื่นๆ นอกพื้นที่กรุงเทพฯ – ปริมณฑล มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยร่วมกันที่ 15.4%