ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 39,996 จุด +47 จุด หรือ +0.12% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,096 จุด +26 จุด หรือ +0.52% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 16,091 จุด +144 จุด หรือ +0.90% ส่งผลดัชนีหุ้นนาสแดคปิดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ จากนิวไฮเดิมที่ระดับ 16,057 จุด ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2022 อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถทำลายสถิติสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 16,121 จุดลงได้
สิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดทะยานขึ้น +2.22%, +5.17% และ +6.12% ตามลำดับ ที่สำคัญ ดัชนีหุ้นปิดขึ้นแดนบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี 9 เดือน หรือตั้งแต่พฤษภาคม 2021 เป็นต้นมา
สาเหตุจากตัวเลขรายจ่ายผู้บริโภคชาวอเมริกันเดือนมกราคมเพิ่มขึ้นตามเป้าหมาย ซึ่งไม่สูงเกินกว่าที่คาดไว้ ทำให้นักลงทุนมั่นใจว่าแรงกดดันต่อแนวโน้มดอกเบี้ยระยะสั้นจะไม่มากกว่าที่คิดไว้
ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดลดลง -0.11%, -0.42% และ -1.34% ตามลำดับ
ทั้งนึ้ ด้านตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% ของเฟดในการประชุมเดือนมิถุนายน ปี 2024 อยู่ที่ 62% ลดลงจากเดิมที่ระดับ 66%