ผู้จัดการเครดิตบูโร นายสุรพล โอภาสเสถียร โพสต์ข้อความเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้ในเดือนมกราคม 2568 ในประเทศไทยมี ดังนี้
20.03.2568 ต่อเนื่องจากสิ่งที่ผมได้ขอนำเสนอข้อมูลไปเมื่อวันที่ 19.03.2568 เกี่ยวสถานะอันอ่อนแอของภาระหนี้สินที่ผู้คนกำลังแบกเป็นภาระในการเดินทางไปสู่อนาคตที่ยังไม่มีความแน่นอนในปี 2568 เนื่องจากพี่ๆ สื่อมวลชนได้ติดต่อเข้ามาขอให้ช่วยเสนอข้อมูลเพิ่มสำหรับเดือนมกราคม 2568 ผมจึงตัดสินใจขอนำเสนอข้อมูลที่สำคัญ 3ส่วนนะครับ
1. หนี้เสียหรือหนี้ NPLs จำนวน 1.22 ล้านล้านบาท มีลักษณะการค่อยๆ เพิ่มมาต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2565 อันเป็นช่วงเวลาสิ้นสุดการระบาด Covid-19 แบ่งเป็น 2.7 แสนล้านบาทคือ สินเชื่อรถยนต์, 2.8 แสนล้านบาทคือสินเชื่อส่วนบุคคล, 2.4แสนล้านบาทคือสินเชื่อบ้าน ลักษณะ MoM เติบโตเพียง 0.6% เราอาจเทียบกับปี 2567 ไม่ได้ เพราะใครๆ ก็ทราบว่า 2 ไตรมาสแรกปีที่แล้วมันเต็มไปด้วยปัญหามากมายมีเรื่องงบประมาณมาประกอบด้วย
2. หนี้กำลังจะเสียหรือ SM ก็มาหยุดอยู่ที่ 5.9 แสนล้านบาท เติบโต MoM 3.1% ทิศทางดีขึ้น เพราะการปรับโครงสร้างหนี้เชิงป้องกันหรือ DR. ทำกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ตามกติกาการให้กู้อย่างรับผิดชอบ
3. ผมอยากให้ทุกท่านให้ความสนใจมากๆ ถึงมากที่สุดคือ หนี้เสียที่เกิดจาก covid-19 หรือ NPLs รหัส 21 ลูกหนี้กลุ่มนี้เมื่อปี 2562 ก่อนโรคระบาด จ่ายหนี้ได้ทุกบัญชีเป็นเวลาอย่างน้อย 12 เดือนติดต่อกันครับ ระดับเกรด A.แต่ประสบปัญหาหมดแรง หมดลม หมดเงินครับ กลุ่มนี้มีอยู่ 2.2 ล้านลูกหนี้ 2.9 ล้านบัญชี ยอดหนี้คงค้าง 2แสนล้านบาท กลุ่มนี้ในความเห็นของคนตัวเล็ก เสียงไม่ดัง ไม่มีอำนาจสั่งการใดๆ เห็นว่าควรต้องช่วยเขาเป็นลำดับต้นๆครับ เขาสู้เต็มที่แล้ว เขาทำดีมาตลอด ช่วยตรงนี้สำหรับคนที่มียอดภาระหนี้ไม่เกิน 1 แสน 3 แสนจะดีหรือไม่ครับ
เราลองคิดตามนะครับ เป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้าในตลาดในเมืองท่องเที่ยว โควิดมาตลาดปิด นักท่องเที่ยวไม่มาเลย สู้ด้วยการขายออนไลน์ เอาเงินเก็บมาสู้ แต่สุดท้ายไม่ไหว หากหลวงท่านจะได้ยื่นมือมาช่วยตรงนี้ ปรับโครงสร้างหนี้แบบมีส่วนลดจะทำได้หรือไม่ครับ น่าคิดนะครับว่า เราจะได้ถือโอกาสนี้สะสางคนที่เป็น Long covid ด้านการเงินเลยดีมั้ย กราบขอบพระคุณทุกๆ ท่านที่ให้กำลังใจมาในการทำงานแก่ผมและทีมงานข้อมูลของเครดิตบูโรครับ