นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือเครดิตบูโร โพสต์ข้อความเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้เสียครัวเรือน มีดังนี้ ผมขอนำเรียนข้อมูลล่าสุดเดือนกรกฎาคม 2567 จากฐานข้อมูลสถิติที่ไม่มีตัวตน(no privacy) หรือเดือนที่เจ็ดของปีที่บรรดาลูกหนี้ยังอยู่ในสภาพมีหลุมรายได้และภูเขาหนี้ดังนี้ครับ
- ตัวเลขหนี้ครัวเรือนในฐานข้อมูลสถิติเครดิตบูโรเท่ากับ 13.6 ล้านล้านบาทแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนมิถุนายน 2567 เลยที่พอจะเพิ่มได้บ้างคือ Nano finance +4.7% เทียบเดือนต่อเดือน
- NPL ขยับเพิ่มจาก 1.16 ล้านล้านบาทมาเป็น 1.19 ล้านล้านบาท คิดเป็น 8.7% ของหนี้รวม อันนี้เคยประมาณการณ์ว่าคงจะไปถึง 1.2 ล้านล้านบาทไม่ช้าไม่นาน กล่าวคือไหลต่อแต่คงไม่ไหลบ่าแบบน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำโคลนถึงหลังคา
- SM ครับเที่ยวนี้ที่น่าสนใจกล่าวคือ มิถุนายน 2567 ปรับลดลงมาจากไตรมาสก่อนอย่างมากจนเหลือ 5 แสนล้านบาท แต่ผ่านไป 1เดือน เข้าเดือนกรกฎาคมมันกลับกระโดดมาเป็น 6.7 แสนล้านบาทครับ เพิ่ม 1.7 แสนล้านบาท
สินเชื่อบ้านเพิ่มจาก 1.43 แสนล้านบาทเป็น 1.69 แสนล้านบาทโตขึ้น 18% สินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มจาก 8.5 หมื่นล้านบาทเป็น 1.13 แสนล้านบาทโตขึ้น 33% สินเชื่อธุรกิจที่คนตัวเล็กตัวน้อยกู้จาก 2.6 หมื่นล้านบาทมาเป็น 4.4 หมื่นล้านบาทโตขึ้น 69% สินเชื่อรถยนต์, บัตรเครดิตนิ่งๆกับลดลง
สงครามการสู้รบระหว่างหนี้ปกติไหลมาเป็นหนี้กำลังจะเสีย, หนี้กล่าวถึงเป็นพิเศษหรือหนี้ SM โดยมีอาวุธคือการปรับโครงสร้างหนี้เชิงป้องกัน Preemptive Debt Restructure หรือที่เรียกว่า DR. ภายใต้มาตรการการให้กู้อย่างมีความรับผิดชอบหรือ RL มีความเข้มข้นมากในเวลานี้ และจะเพิ่มมากขึ้นแน่ๆจนถึงสิ้นปีแน่นอน
แต่เอ๊ะ.. ตัวเลขของหนี้เรื้อรัง, หนี้เรื้อรังรุนแรง ที่เข้ามาตรการช่วยเหลืออันเป็นเรือธงของการสู้รบตอนนี้ไปได้เท่าไหร่แล้วอ่ะ เพราะ Ploan แบบหมุนเวียนของลูกหนี้รายได้น้อยที่มีลักษณะจ่ายดอกสะสมมาในอดีตที่มากกว่าจ่ายเข้าต้นนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของ Ploan ที่มีการไหลมาเป็น SM เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญในเดือนเจ็ดนี้