นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า “ค่าเงินบาทวันนี้”เปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.32 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น เล็กน้อย”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 32.41 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) พลิกกลับมาทยอยแข็งค่าขึ้น เข้าใกล้โซน 32.30 บาทต่อดอลลาร์ อีกครั้ง (แกว่งตัวในกรอบ 32.30-32.42 บาทต่อดอลลาร์) หลังในช่วงบ่ายวันก่อนหน้า เงินบาทเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าเข้าใกล้โซน 32.40-32.50 บาทต่อดอลลาร์ ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์
แนวโน้มค่าเงินบาทมองกรอบวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.25-32.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งยังคงมุมมองเดิมว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways โดยอาจยังติดโซนแนวต้าน 32.50 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่โซนแนวรับก็ไม่ควรจะต่ำกว่าโซน 32.30 บาทต่อดอลลาร์ ไปมากนัก โดยเฉพาะในช่วงก่อนตลาดรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ (ไฮไลท์สำคัญ คือ ข้อมูลการจ้างงาน) ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ได้อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ดี ในช่วงระหว่างวัน เรามองว่า เงินบาทอาจพอได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าบ้าง หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีนออกมาดีกว่าคาด หนุนให้ เงินหยวนจีน (CNY) ทยอยแข็งค่าขึ้นบ้าง หลังในช่วงที่ผ่านมา เงินบาทได้เคลื่อนไหวสอดคล้องกับเงินหยวนจีนในระดับสูง
ด้านกลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.25-32.50 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยวานนี้ตามความไม่แน่นอนของการเมืองไทย โดยมีข่าวเรื่องการโหวต นายกฯ ของพรรคประชาชน และการทำเรื่องยุบสภาของพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ดี ทั้งสองข่าวถูกปฏิเสธอย่างเป็นทางการในเวลาต่อมา
ช่วงข้ามคืน เงินบาทแข็งค่าขึ้นหลัง ISM ภาคการผลิตของสหรัฐฯ เดือนสิงหาคม ออกมาที่ 48.7 ปรับสูงขึ้นจากเดือนก่อนที่ 48.0 แต่ต่ำกว่าตลาดคาด
เงินเยนอ่อนค่าเร็วหลังฮิโรชิ โมริยามะ ยื่นเรื่องขอลาออกจากตำแหน่ง เลขาธิการพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP)