เงินบาทวันนี้ปรับแข็งค่าขึ้น แตะ 33.40 บาทต่อดอลลาร์ ตลาดเชื่อเฟดยังมีโอกาสเร่งลดดอกเบี้ย

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทวันนี้เปิดที่ระดับ 33.40 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นมากจากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ  33.75 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.25-33.50 บาทต่อดอลลาร์ (ควรระวังความผันผวนในช่วงทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ) โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องหลุดโซนแนวรับ 33.50 บาทต่อดอลลาร์ที่เราประเมินไว้ (แกว่งตัวในกรอบ 33.39-33.76 บาทต่อดอลลาร์) ตามการทยอยอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ หลังรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต PPI เดือนสิงหาคมที่ออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อย ยังคงหนุนให้ผู้เล่นในตลาดเชื่อว่าเฟดยังมีโอกาสเร่งลดดอกเบี้ยทั้งในปีนี้และปีหน้าได้ 

ขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์ยังถูกกดดันจากการทยอยแข็งค่าขึ้นของเงินยูโร (EUR) หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Deposit Facility Rate) สู่ระดับ 3.50% ตามคาด ทว่า ECB ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะลดดอกเบี้ยลงต่อเนื่อง ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงประเมินว่า ECB อาจไม่ได้เร่งลดดอกเบี้ยเหมือนกับเฟด 

อีกทั้งภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินสหรัฐฯ ก็มีส่วนกดดันเงินดอลลาร์เพิ่มเติม และนอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าว เงินบาทยังได้แรงหนุนจากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ หนุนโดยการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์และแรงซื้อจากบรรดานักลงทุนประเภท CTA (Commodity Trading Advisor) ที่อาจใช้กลยุทธ์ Trend Following

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท เรายอมรับว่าการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมานั้น ทำให้มุมมองของเราที่ประเมินว่าเงินบาทได้ส่งสัญญาณกลับตัวอ่อนค่าลงในเชิงเทคนิคัลอาจผิดไปได้ หลังราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นทะลุโซนแนวต้านและทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ดีเราคงมุมมองเดิมว่าผู้เล่นในตลาดต่างคาดหวังแนวโน้มการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟดมากเกินไป ทำให้มีความเสี่ยงที่ในสัปดาห์หน้า ผู้เล่นในตลาดอาจต้องมีการปรับมุมมองต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดใหม่ หากคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด (Dot Plot) ใหม่ ไม่ได้สะท้อนถึงแนวโน้มการเร่งลดดอกเบี้ยตามที่ตลาดกำลังคาดหวัง ทำให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น กดดันทั้งราคาทองคำและเงินบาทได้ไม่ยาก

นอกจากนี้ ในเชิงเทคนิคัลการแข็งค่าขึ้นล่าสุดของเงินบาท หากประเมินจากกราฟรายวันของ USDTHB ยังเห็นสัญญาณ RSI Bullish Divergence อยู่ แม้ว่าในส่วนของ MACD และ Stochastic จะเริ่มสะท้อนโอกาสที่เงินบาทอาจแข็งค่าขึ้น ทำให้เรามองว่าเงินบาทอาจแกว่งตัว sideways แถวโซน 33.30 บาทต่อดอลลาร์เป็นอย่างน้อย ก่อนที่จะทยอยอ่อนค่าลงได้บ้าง ซึ่งต้องรอลุ้นผลการประชุมเฟด  

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles