เงินบาทวันนี้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย เสี่ยงผันผวน หลังตัวเลขจ้างงานของสหรัฐยังกดดันดอลลาร์อ่อน

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทวันนี้ เปิดที่ระดับ 34.26 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  34.34 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.15-34.40 บาทต่อดอลลาร์  

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาทแกว่งตัว sideways ในกรอบ 34.16-34.35 บาทต่อดอลลาร์ โดยแม้ว่าเงินบาทจะได้แรงหนุนจากการทยอยอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ หลังการปรับปรุงรายงานข้อมูลการจ้างงานเบื้องต้น (Preliminary Annual Payrolls Benchmark Revision) ชี้ว่า ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) ในช่วง 12 เดือนที่สิ้นสุด ณ เดือนมีนาคมของปีนี้ นั้น ลดลงกว่า 8.18 แสน ตำแหน่ง จากที่ได้รายงานก่อนหน้า ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างประเมินว่า แนวโน้มการชะลอลงของตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ชัดเจนขึ้นนั้น จะทำให้เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนอย่างแน่นอน (พร้อมเพิ่มโอกาสที่เฟดจะเร่งลดดอกเบี้ย -50bps ในการประชุมเดือนกันยายน) และผู้เล่นในตลาดยังคงคาดหวังว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ราว -100bps ในปีนี้

อย่างไรก็ตาม เงินบาทก็มีจังหวะอ่อนค่าลงบ้าง ตามโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำ และอาจมีโฟลว์ธุรกรรมซื้อน้ำมันดิบ หลังราคาทองคำ (XAUUSD) มีจังหวะปรับตัวลดลงสู่โซนแนวรับ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงหนักกว่า -2.4% จากความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ดูไม่น่ากังวลมากนัก  

สำหรับ แนวโน้มค่าเงินบาทมีโมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทนั้นมีกำลังมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากการที่เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลงต่อเนื่องในช่วงวันก่อนหน้า และยังอ่อนค่าลงได้ แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีมติ 6-1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50% ตามที่เราได้ประเมินไว้ในวันก่อน ซึ่งภาพดังกล่าวก็สอดคล้องกับมุมมองของเราที่ Call Bottom USDTHB แถว 34.00 บาทต่อดอลลาร์ (เราประเมินว่า เงินบาทอาจไม่ได้แข็งค่าหลุดโซน 34.00 บาทต่อดอลลาร์) เนื่องจากเราคงมุมมองเดิมว่า การแข็งค่าของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมานั้นได้รับรู้ปัจจัยสนับสนุนต่างๆ ไปมากแล้ว 

ขณะที่ เงินบาทก็เริ่มเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น หากตลาดปรับมุมมองต่อแนวโน้มการเร่งลดดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งต้องจับตาถ้อยแถลงของประธานเฟดในสัปดาห์นี้ และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อีกทั้ง เงินบาทก็อาจเผชิญแรงกดดันจากโฟลว์ธุรกรรมซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ในจังหวะย่อตัว ทั้งทองคำและน้ำมันดิบ หลังราคาทองคำและราคาน้ำมันดิบ อาจขาดปัจจัยหนุนในช่วงนี้ได้ นอกจากนี้ จากการประเมินสถานะการถือครองของผู้เล่นในตลาด รวมถึงการประเมิน Valuation ของเงินบาท ก็ทำให้เรามองว่า เงินบาทอาจทยอยพลิกกลับมาอ่อนค่าจากโซน 34.00 บาทต่อดอลลาร์ได้ อนึ่ง เราจะมั่นใจมากขึ้นว่า เงินบาทได้กลับมาสู่แนวโน้มอ่อนค่าลงชัดเจน หากเงินบาทสามารถอ่อนค่าทะลุโซน 34.40 บาทต่อดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจน ในเบื้องต้น เราประเมินว่า เงินบาทจะมีโซนแนวต้านแรกแถว 34.30 บาทต่อดอลลาร์ และจะมีโซนแนวต้านสำคัญในช่วง 34.50 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่โซนแนวรับนั้นได้ขยับขึ้นมาแถว 34.00-34.10 บาทต่อดอลลาร์ 

โดยยังควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วง 19.30 . ตามเวลาประเทศไทย (Jobless Claims) ไปจนถึงช่วง 20.45 . (ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ) ซึ่งอาจกระทบต่อมุมมองของผู้เล่นในตลาดในประเด็นแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดได้ โดยเฉพาะในกรณีที่รายงานข้อมูลดังกล่าวออกมาดีกว่าคาด 

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles