นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาท เปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.33 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 32.43 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้นบ้าง ทดสอบโซนแนวรับ 32.30 บาทต่อดอลลาร์ อีกครั้ง (แกว่งตัวในกรอบ 32.30-32.48 บาทต่อดอลลาร์) หนุนโดยการปรับตัวลดลงของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ที่มาพร้อมกับการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาทองคำ (XAUUSD) ซึ่งสามารถปรับตัวขึ้นเข้าใกล้โซนแนวต้านระยะสั้น 3,380-3,390 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง
หลังรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ (ISM Services PMI) ของสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคม ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 50.1 จุด (สูงกว่า 50 จุด สะท้อนถึง ภาวะขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคการบริการ) แย่กว่าที่ตลาดคาดไว้พอสมควร ทำให้ ผู้เล่นในตลาดยังคงมีความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ทั้งนี้ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.25-32.50 บาทต่อดอลลาร์ โดยยอมรับว่า โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินบาทนั้นยังคงมีกำลังอยู่ หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่าง ดัชนี ISM PMI ภาคการบริการ ล่าสุด ออกมาแย่กว่าคาด ทำให้บรรดาผู้เล่นในตลาดยังคงคาดหวังว่า เฟดจะสามารถเดินหน้าลดดอกเบี้ยได้ 2-3 ครั้ง ในปีนี้ และอีกราว 3 ครั้ง ในปีหน้า ซึ่งส่งผลให้ เงินดอลลาร์ยังไม่สามารถพลิกกลับมารีบาวด์แข็งค่าขึ้นได้
นอกจากนี้ ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ เงินดอลลาร์อาจไม่ได้มีปัจจัยหนุนมากนัก เนื่องจาก รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่เหลืออยู่ อาจไม่สามารถทำให้ผู้เล่นในตลาดปรับเปลี่ยนมุมมองต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ได้อย่างมีนัยสำคัญ
ด้านกลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.25-32.50 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาททรงตัววานนี้ ก่อนเผชิญแรงกดดันด้านแข็งค่าช่วงข้ามคืนตามการอ่อนค่าของดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐหลังเลข ISM ภาคบริการออกมาที่ 50.1 ต่ำกว่าเดือนก่อนและต่ำกว่าที่ตลาดคาดมาก ทำให้ตลาดกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมขึ้นภาษียาและเซมิคอนดักเตอร์ โดยภาษีนำเข้ายาในช่วงแรกจะอยู่ในระดับต่ำ แต่และเพิ่มขึ้นเป็น 150% และเป็น 250% ได้
รัสเซียพิจารณาข้อตกลงหยุดยิงทางอากาศกับยูเครน เพื่อเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ