เงินบาทวันนี้ ขยับขึ้นเล็กน้อย หลังเฟดคงดอกเบี้ยตามคาด ทองทำออลล์ไทม์ไฮ

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทวันนี้ เปิดที่ระดับ 33.57 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดวันที่ผ่านมาที่ระดับ 33.64 บาทต่อดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา เงินบาท(USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้นบ้าง ในลักษณะ Sideways Down (แกว่งตัวในกรอบ 33.56-33.69 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะอ่อนค่าลงบ้าง ตามการทยอยแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ในช่วงก่อนตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุม FOMC ของเฟด ซึ่งผู้เล่นในตลาดได้ปรับลดโอกาสเฟดเดินหน้าลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ เหลือราว 20%

แม้คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ใหม่ของเฟด จะยังคงสะท้อนว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยราว 2 ครั้ง ในปีนี้ และอีก 2 ครั้ง ในปีหน้า จบที่ระดับสูงกว่า 3.00% เล็กน้อย (Longer-run) ไม่ต่างจาก Dot Plot ในการประชุมเดือนธันวาคมปีก่อน แต่เฟดได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจ โดยมองเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจขยายตัว +1.7% ลดลงจากการประเมินครั้งก่อน (+2.1%) พร้อมปรับคาดการณ์อัตราการว่างงานและอัตราเงินเฟ้อ PCE สูงขึ้นเป็น 4.4% และ 2.7% ตามลำดับ ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างยังคงกังวลความเสี่ยงเศรษฐกิจสหรัฐฯ เผชิญภาวะ Stagflation (เศรษฐกิจชะลอตัวลง แต่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง) ส่งผลให้บรรดาผู้เล่นในตลาดกลับมาปรับเพิ่มโอกาสเฟดเดินหน้าลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง ในปีนี้ เป็น 64%

ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างวันเงินบาทก็อาจได้แรงหนุนอยู่บ้าง หากบรรดานักลงทุนต่างชาติทยอยเข้าซื้อสินทรัพย์ไทย โดยเฉพาะหุ้นไทยเพิ่มเติม ตามภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินโดยรวม แต่เรามองว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงนี้ ก็อาจทำให้บรรดานักลงทุนต่างชาติทยอยขายทำกำไรสถานะถือครองบอนด์ โดยเฉพาะบอนด์ระยะสั้นได้

ด้านกลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.45-33.70 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.25-4.50% ตามคาด คงระดับ Median dot plot ไว้เท่าเดิม ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจลง เงินเฟ้อขึ้น ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง

ธนาคารกลางญี่ปุ่นคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% และส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอีกภายในครึ่งแรกของปีนี้ ขณะที่ รายงานการประชุม กนง. ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยโตต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ แต่การลดดอกเบี้ยไม่ใช่จุดเริ่มต้นของวัฐจักรการผ่อนคลายนโยบาย และสามารถรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้าได้

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles