นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าเงินบาทวันนี้ เปิดที่ระดับ 36.76 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.65 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.65-36.90 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา ค่าเงินบาทผันผวนอ่อนค่าลง (แกว่งตัวในช่วง 36.60-36.78 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะแข็งค่าขึ้นเร็วและแรง ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของราคาทองคำ หลังรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ของสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคม ได้ชะลอลงสู่ระดับ 2.2% น้อยกว่าที่ตลาดคาด ส่วนยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ล่าสุดก็เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.42 แสนราย แย่กว่าที่ตลาดคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดกลับมามีความหวังว่า เฟดอาจทยอยลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้
อย่างไรกตาม เงินบาทก็พลิกกลับมาอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ตามการกลับมาแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่ยังได้แรงหนุนจากแรงซื้อของผู้เล่นในตลาด (Buy on Dip)หลังผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็ยังคงกังวลต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ขณะเดียวกัน เงินยูโร (EUR) ก็ทยอยอ่อนค่าลงตามตลาดหุ้นยุโรป ท่ามกลางความกังวลสถานการณ์การเมืองในฝรั่งเศสและยุโรป
ส่วนเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ก็ผันผวนอ่อนค่าลงบ้าง ในช่วงก่อนตลาดรับรู้ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)นอกจากนี้ เงินบาทยังถูกกดดันจากโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว หลังราคาทองคำเผชิญแรงขายต่อเนื่องและย่อตัวลงกว่า -20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับ แนวโน้มค่าเงินบาทประเมินว่า ควรระวังความเสี่ยงที่เงินบาทอาจผันผวนอ่อนค่าลงต่อได้ ในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุม BOJ เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างคาดหวังว่า BOJ จะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้น ต่อแนวโน้มการทยอยใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น และอาจมีการประกาศทยอยปรับลดการเข้าซื้อบอนด์ ซึ่งหาก BOJ ไม่ได้ส่งสัญญาณดังกล่าว สวนทางกับความคาดหวังของตลาดก็อาจกดดันให้ เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) เสี่ยงที่จะผันผวนอ่อนค่าลงต่อทดสอบโซนแนวต้านแถว 158 เยนต่อดอลลาร์ ได้อีกครั้ง และการอ่อนค่าลงของเงินเยนญี่ปุ่นในช่วงนี้ ที่มาพร้อมกับช่วงเงินยูโร (EUR) ก็เผชิญแรงกดดันจากประเด็นการเมืองยุโรป ก็อาจเป็นปัจจัยที่ยังหนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นได้ในระยะสั้น แม้ว่าผู้เล่นในตลาดจะเริ่มกลับมาเชื่อว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ก็ตาม
นอกจากนี้ ควรจับตาทิศทางราคาทองคำ รวมถึงฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติที่จะเป็นอีกปัจจัยสร้างความผันผวนให้กับเงินบาทในระยะนี้ อย่างไรก็ดี เราประเมินว่าเงินบาทก็อาจยังไม่สามารถอ่อนค่าไปได้มากนัก และอาจยังติดอยู่ในโซนแนวต้านแถว 36.85-36.90 บาทต่อดอลลาร์ (แนวต้านถัดไป 37.00 บาทต่อดอลลาร์)ส่วนการแข็งค่าในช่วงนี้ก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด ทำให้เงินบาทยังมีแนวรับแถวโซน 36.50-36.60 บาทต่อดอลลาร์