เงินบาทวันนี้แข็งค่าขึ้น หลังธนาคากลางในยุโรป ไม่ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง ดอลลาร์ยังเผชิญแรงกดดันจากการทยอยขายทำกำไรธีม Trump Trades

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทวันนี้ เปิดที่ระดับ 34.02 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.28 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.95-34.20 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง (กรอบการเคลื่อนไหว 33.92-34.31 บาทต่อดอลลาร์) หนุนโดยการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ที่เผชิญแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของบรรดาสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) หลัง ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ปรับลดดอกเบี้ยลง -25bps สู่ระดับ 4.75% ตามที่เราประเมินไว้ ทว่า BOE กลับไม่ได้ส่งสัญญาณพร้อมเดินหน้าลดดอกเบี้ยลงต่อเนื่อง ทำให้ผู้เล่นในตลาดเชื่อว่า BOE มีโอกาสน้อยราว 22% ที่จะเดินหน้าลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในการประชุมเดือนธันวาคม 

ทั้งนี้ เงินดอลลาร์ยังเผชิญแรงกดดันจากการทยอยขายทำกำไรธีม Trump Trades ซึ่งก็มีส่วนกดดันให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเช่นกัน และการปรับตัวลดลงของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ก็มีส่วนหนุนให้ราคาทองคำ (XAUUSD) รีบาวด์ขึ้นต่อเนื่อง สู่โซน 2,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยขายทำกำไรการรีบาวด์ขึ้นราว +50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ของราคาทองคำ โดยโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทก็ถูกชะลอลงแถวโซนแนวรับ 33.90-34.00 บาทต่อดอลลาร์ ตามการรีบาวด์ขึ้นบ้างของเงินดอลลาร์ หลังที่ประชุม FOMC ของเฟดได้ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง -25bps สู่ระดับ 4.50%-4.75% ตามที่เราคาด ทว่าเฟดรวมถึงประธานเฟดก็ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยลงต่อเนื่อง อีกทั้งเฟดก็ไม่ได้แสดงความมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับเข้าสู่เป้าหมาย 2% อย่างยั่งยืน พร้อมกับแสดงความกังวลต่อแนวโน้มตลาดแรงงานเหมือนในการประชุมรอบก่อน ซึ่งอาจเป็นเพราะผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ทำให้เฟดและประธานเฟดมีท่าทีดังกล่าวได้ ส่งผลให้บรรดาผู้เล่นในตลาดคงเชื่อว่าเฟดอาจทยอยลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่าที่เฟดได้ระบุไว้ใน Dot Plot เดือนกันยายน (ผู้เล่นในตลาดมองว่า เฟดมีโอกาสราว 76% ที่จะลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2025 น้อยกว่าที่เฟดมองว่าจะลดดอกเบี้ย 4 ครั้ง)

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท การพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมานั้นอาจทำให้โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทชะลอลงบ้าง แต่เราจะยังคงมั่นใจต่อมุมมองเดิมว่าเงินบาทยังมีแนวโน้มทยอยอ่อนค่าลงได้ ตราบใดที่เงินบาทไม่ได้กลับมาแข็งค่าขึ้นจนทะลุโซนแนวรับ 33.65 บาทต่อดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจน (ตามกลยุทธ์ Trend-Following) ทั้งนี้ในระยะสั้น เงินบาทก็อาจแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 33.90-34.25 บาทต่อดอลลาร์ ไปก่อนได้ จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยเรามองว่าเงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าได้บ้าง หากนักลงทุนต่างชาติยังคงเดินหน้าขายสินทรัพย์ไทย ทว่าการอ่อนค่าของเงินบาทดังกล่าวก็อาจถูกชะลอลงบ้าง ตราบใดที่ราคาทองคำยังสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ ซึ่งอาจจะขึ้นกับทิศทางของเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ รวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางเช่นกัน

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles