เงินบาทสัปดาห์นี้ลุ้นเคลื่อนไหว 32.20-33.00 บาทต่อดอลลาร์ หลังพลิกแตะระดับอ่อนค่าสุดรอบกว่า 1 เดือน รับดอลลาร์ฟื้น หลังเฟดส่งสัญญาณไม่รีบปรับลดดอกเบี้ย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาท เคลื่อนไหวในกรอบค่อนข้างแคบก่อนการประชุมเฟดในช่วงกลางสัปดาห์ แต่เริ่มทยอยอ่อนค่าลงในช่วงกลางสัปดาห์ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้นและบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้น หลังผลการประชุมเฟดสะท้อนว่า เฟดจะยังไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (โอกาสการลดดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือนก.ย. ลดลง) นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ที่ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด อาทิ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2568 ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ค. และดัชนีราคา Core PCE ที่ปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนมิ.ย. (ตลาดคาดที่ 2.7%)

โดยเงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่องในช่วงท้ายสัปดาห์ แตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 1 เดือนที่ 32.87 บาทต่อดอลลาร์ฯ สอดคล้องกับทิศทางอ่อนค่าของสกุลเงินอื่น ๆ ในภูมิภาค และการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ยังคงแข็งค่าขึ้นต่อ หลังความกังวลต่อผลกระทบของภาษีสินค้านำเข้าต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่อนคลายลงบางส่วน หลังการเปิดเผยภาษี Tariffs อัตราใหม่ที่เริ่มมีผล 1 ส.ค. นี้ ซึ่งส่วนใหญ่ต่ำกว่าอัตราที่ประกาศเมื่อ 9 เม.ย.

ในวันศุกร์ที่ 1 ส.ค. 2568 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 32.86 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 32.38 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (25 ก.ค.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 28 ก.ค.-1 ส.ค. 2568 นั้น นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 1,775 ล้านบาท แต่มีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 1,855 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตร 1,847 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 8 ล้านบาท)

สำหรับสัปดาห์นี้ (4-8 ส.ค.68) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 32.20-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ค. ของไทย ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก และสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิ.ย. ดัชนี PMI/ISM ภาคบริการเดือนก.ค. และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุม BOE ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.ค. ของจีน ญี่ปุ่น ยูโรโซน อังกฤษ และตัวเลขเศรษฐกิจจีนเดือนก.ค. อาทิ ตัวเลขการส่งออก ด้วยเช่นกัน

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles