เงินบาทสัปดาห์นี้ ลุ้นแตะ 37.20 บาทต่อดอลลาร์จับตาทิศทางเงินทุนต่างชาติ ดัชนีราคาผู้บริโภคไทย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาท เคลื่อนไหวในกรอบที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยตามจังหวะการย่อตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลงในช่วงที่เหลือของสัปดาห์สอดคล้องกับเงินหยวนและเงินเยน โดยเงินเยนอ่อนค่าผ่านแนว 161.00 เยนต่อดอลลาร์ฯ ไปแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 38 ปีเทียบกับเงินดอลลาร์ฯขณะที่เงินดอลลาร์ฯแข็งค่าขึ้นหลังท่าทีของเจ้าหน้าที่เฟดซึ่งยังคงมีความกังวลต่อสถานการณ์เงินเฟ้อหนุนการคาดการณ์ของตลาดที่ว่าเฟดไม่น่าจะรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเร็วๆนี้นอกจากนี้เงินดอลลลาร์ฯยังได้รับแรงหนุนโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินยูโรซึ่งมีปัจจัยกดดันจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมืองในฝรั่งเศส

ทั้งนี้ เงินบาทลดช่วงอ่อนค่าและฟื้นตัวแข็งค่ากลับมาได้บางส่วน โดยน่าจะมีแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก ประกอบกับตลาดยังรอติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ (PCE/Core PCE Price Indices) อย่างใกล้ชิด

ในวันศุกร์ที่ 28 มิ.. 2567 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 36.71 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 36.66 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (21 มิ.. 67) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 24-28 มิ.. 2567 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย 8,770 ล้านบาท และ 6,540 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับสัปดาห์นี้ (1-5 ..) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 36.40-37.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิ.. ของไทย ปัจจัยการเมืองในประเทศ สถานการณ์สกุลเงินในภูมิภาค และถ้อยแถลงของประธานเฟด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI และ ISM ภาคการผลิตและภาคบริการ ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชน และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนมิ.. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนพ.. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และบันทึกการประชุมเฟด (11-12 มิ..) นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ (4 ..) ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนมิ.. ของจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ และยูโรโซน และดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิ.. ของยูโรโซนด้วยเช่นกัน

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles