นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาท วันนี้ เปิดที่ระดับ 33.67 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 33.64 บาทต่อดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันอังคารที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวอ่อนค่าลงบ้าง ในลักษณะ Sideways Up (กรอบการเคลื่อนไหว 33.61-33.74 บาทต่อดอลลาร์) ตามจังหวะการแข็งค่าขึ้นบ้างของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ (S&P Manufacturing & Services PMIs) เดือนตุลาคม และ ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ที่ออกมาดีกว่าคาด
นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังได้กดดันให้ราคาทองคำ (XAUUSD) มีจังหวะย่อตัวลงเกือบ -20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาท ทว่า การอ่อนค่าของเงินบาทก็เริ่มชะลอลง หลังเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ พลิกกลับมาย่อตัวลงบ้าง เปิดโอกาสให้ราคาทองคำสามารถรีบาวด์ขึ้นราว +10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จนกลับมาแกว่งตัวแถวโซน 2,730-2,740 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นอกจากนี้ แรงขายเงินดอลลาร์ ในจังหวะที่เงินบาทอ่อนค่าลงเข้าใกล้โซนแนวต้าน จากบรรดาผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็พอช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้เช่นกัน
สำหรับ แนวโน้มค่าเงินบาท แม้ว่า เรายังคงมั่นใจต่อแนวโน้มการทยอยอ่อนค่าลงของเงินบาท ทว่าโมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทก็ชะลอลงบ้าง หลังผู้เล่นในตลาดต่างทยอยขายเงินดอลลาร์ในช่วงวันก่อนหน้า อีกทั้ง ราคาทองคำก็ยังคงมีจังหวะรีบาวด์ขึ้นบ้าง ทำให้ในระยะสั้น เงินบาทก็อาจแกว่งตัวในกรอบ sideways ในช่วง 33.55-33.85 บาทต่อดอลลาร์ ไปก่อนได้ จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.60-33.80 บาทต่อดอลลาร์