เงินบาทเช้านี้แข็งค่าขึ้นอีก แนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง รับดอลลาร์ทยอยอ่อนค่าลง จับตาการแต่งตั้งผู้ว่าฯ ธปท. คนใหม่ 

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาท เปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.23 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากปิดวันก่อนที่ระดับ 32.36 บาท/ดอลลาร์ โดยตั้งแต่คืนที่ผ่านมา เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องกับการทยอยอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์

ปัจจัยต่างประเทศช่วงนี้ ตลาดจะรอติดตามรายงานดัชนีภาวะธุรกิจ ทั้งในฝั่งภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ เดือนก.ค. เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และรอติดตามถ้อยแถลงจากบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลัก ทั้งธนาคารกลาง อังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB)

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาทได้ทยอยแข็งค่าขึ้น โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากการแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินเยน หลังรับรู้ผลการ เลือกตั้งวุฒิสมาชิก ที่แม้ว่าพรรครัฐบาล LDP และ Komeito จะสูญเสียการครองเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา แต่นายกฯ Shigeru Ishiba ก็ยังคงยืนยันจะอยู่ในตำแหน่งต่อไป

นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังได้แรงหนุนอยู่ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังทยอยออกมาสดใส และนอกเหนือจากปัจจัย ดังกล่าว การแข็งค่าขึ้นของเงินบาท ส่วนหนึ่งก็ได้อานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ แม้เงินบาทจะพอได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่า แต่ การแข็งค่าของเงินบาทจะเป็นไปอย่างจำกัด และยังมีความเสี่ยงทยอยอ่อนค่าลงบ้าง

“เรายังคงมีความกังวลเดิม คือ ความผันผวนของเงินบาทที่อาจกลับมาสูงขึ้นได้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการดำเนิน นโยบายการค้าของสหรัฐฯ และสถานการณ์การเมืองไทย” นายพูน ระบุ

นายพูน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.15-32.35 บาท/ดอลลาร์

ด้านกลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.15-32.40 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากดัชนีเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าพร้อม US Treasury yields ที่ลดลงตามทิศทาง Yields ของพันธบัตรรัฐบาลยุโรปที่ลดลงเช่นกัน เนื่องจากเข้าใกล้วันจัดเก็บภาษีของสหรัฐฯ ส่งผลให้มีความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น

ราคาทองคำเพิ่มขึ้นจาก Treasury yields ที่ลดลง ความกังวลเรื่องปรับโครงสร้างธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)  และ ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งวันนี้จับตาการแต่งตั้งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ โดยคาดว่าจะมีการนำเสนอชื่อเข้า ครม.

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles