นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.22 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 32.26 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้นบ้าง ในลักษณะ Sideways Down (แกว่งตัวในกรอบ 32.20-32.27 บาทต่อดอลลาร์) สอดคล้องกับการปรับตัวลดลงบ้าง ของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ส่วนราคาทองคำ (XAUUSD) ก็สามารถปรับตัวทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์
ท่ามกลางความกังวลต่อแนวโน้มสหรัฐฯ เผชิญภาวะ Government Shutdown หลังการเจรจาล่าสุดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับผู้นำจากฝั่งพรรครีพับลิกันและเดโมแครตจากทั้งสองสภา ยังไม่ได้ข้อสรุปที่จะนำไปสู่การหลีกเลี่ยงภาวะ Government Shutdown ได้ ทำให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มมองว่า สหรัฐฯ อาจเผชิญภาวะ Government Shutdown ได้ในระยะสั้นนี้
อย่างไรก็ดี รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงทยอยออกมาดีกว่าคาด อย่าง ล่าสุด ยอด Pending Home Sales เดือนสิงหาคมที่ปรับตัวขึ้น +4.0% จากเดือนก่อนหน้า ดีกว่าคาด ก็มีส่วนช่วยพยุงเงินดอลลาร์ ไม่ให้อ่อนค่าลงต่อเนื่อง
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.15-32.45 บาทต่อ ดอลลาร์ โดยมอง โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทยังมีกำลังอยู่ และเงินบาทได้กลับสู่แนวโน้มอ่อนค่าลง (อย่างน้อยในระยะสั้น) หลังเงินบาท (USDTHB) ได้ทยอยอ่อนค่าลงจนทะลุโซนแนวต้าน 32.00 บาทต่อดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจน ตามการประเมินด้วยกลยุทธ์ Trend-Following ซึ่งในช่วงนี้ เรายังคงเห็นบทวิเคราะห์จากต่างชาติหลายแห่งที่ประเมินโอกาสเงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่องได้และอาจสามารถอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้าน 33.00 บาทต่อดอลลาร์