เงินบาทเปิดตลาดร่วงอ่อนค่าบริเวณ 34.37 บาทต่อดอลลาร์  หลังดอลลาร์รับแรงหนุนจากการเพิ่มสถานะถือครองสินทรัพย์ Trump Trades

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าเงินบาทวันนี้เปิดที่ระดับ 34.37 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงหนัก” จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 34.16 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.20-34.55 บาทต่อดอลลาร์ (ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุม BOE และ FOMC ของเฟด) นับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวอ่อนค่าลงต่อเนื่อง (กรอบการเคลื่อนไหว 34.15-34.40 บาทต่อดอลลาร์) กดดันโดยการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ซึ่งได้แรงหนุนจากการเพิ่มสถานะถือครองสินทรัพย์ให้สอดคล้องกับธีม Trump Trades หลังผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ อย่างไม่เป็นทางการสะท้อนว่าโดนัลด์ ทรัมป์ได้คว้าชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี ส่วนพรรครีพับลิกันก็มีแนวโน้มครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรสได้ (ล่าสุดเป็นที่แน่ชัดว่าพรรครีพับลิกันจะครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ส่วนสภาผู้แทนฯ นั้นก็อาจต้องรอลุ้นต่อ แต่พรรครีพับลิกันได้ที่นั่งมาแล้ว 205 ที่นั่งจาก 218 ที่นั่ง เพื่อครองเสียงข้างมาก)

นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังได้กดดันให้ ราคาทองคำ (XAUUSD) ปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่โซน 2,650-2,660 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนที่คงมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำต่างก็ทยอยเข้าซื้อทองคำเพิ่มเติม โดยโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนกดดันค่าเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีเงินบาทยังไม่ได้อ่อนค่าต่อเนื่องจนทะลุโซนแนวต้านสำคัญ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจากผู้เล่นในตลาดเริ่มกลับมารอลุ้นผลการประชุม FOMC ของเฟดที่จะรับรู้ในช่วงเช้าตรู่ของวันศุกร์นี้ตามเวลาประเทศไทย และผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็ทยอยขายทำกำไร Trump Trades ออกมาบ้าง

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท มั่นใจมากขึ้นว่าเงินบาทยังมีแนวโน้มทยอยอ่อนค่าลงต่อเนื่องได้ หลังผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ก็สอดคล้องกับมุมมองของเราบ้าง (Trump w/Divided Congress แต่โอกาสเกิดกรณี Republican Trifecta น่าจะสูงกว่า จากผลการเลือกตั้งสภาผู้แทนล่าสุด) โดยเราประเมินว่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้าน 34.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้ หากบรรดานักลงทุนต่างชาติยังคงเดินหน้าทยอยขายสินทรัพย์ไทยเพิ่มเติมรวมถึง หากราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องได้ ซึ่งอาจต้องเห็นการปรับตัวขึ้นต่อของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ซึ่งเรามองว่า อาจต้องรอลุ้นผลการประชุมบรรดาธนาคารกลางหลัก โดยเฉพาะเฟด นอกจากนี้เราประเมินว่าบรรดาผู้เล่นในตลาด ไม่ว่าจะผู้ส่งออกหรือผู้เล่นที่มีสถานะ Short THB (มองเงินบาทอ่อนค่า) ก็อาจรอจังหวะเงินบาทอ่อนค่าใกล้โซนแนวต้านในการทยอยขายเงินดอลลาร์ หรือขายทำกำไรสถานะดังกล่าวได้ ทำให้การอ่อนค่าของเงินบาทก็มีแนวโน้มค่อยเป็นค่อยไปได้

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles