นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 34.01 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อย จากปิดสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 33.99 บาท/ดอลลาร์ โดยคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวในกรอบ Sideways ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา การอ่อนค่าของเงินบาทยัง เป็นไปอย่างจำกัด แม้จะเผชิญแรงกดดันจากความกังวลนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ แต่เงินบาทก็พอได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้น ต่อเนื่องของราคาทองคำ
ปัจจัยในประเทศสัปดาห์นี้ ตลาดจะรอจับตาการแถลงร่วมภาคเศรษฐกิจจริงและระบบทางการเงิน จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยเฉพาะในส่วนของมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการช่วยเหลือต่างๆ จากธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งส่วนของรายงาน ข้อมูลเศรษฐกิจนั้น ตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ผ่านรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิต ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ (Business Sentiment) และอัตราเงินเฟ้อ CPI ในเดือนมี.ค.
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท ยังคงเสี่ยงทยอยอ่อนค่าลง ท่ามกลางปัจจัยกดดัน โดยเฉพาะแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีด กันทางการค้าของสหรัฐฯ และความเชื่อมั่นของผู้เล่นในตลาดหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งอาจกระทบต่อฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติในระยะ สั้นได้ แต่ทั้งนี้ เงินบาทอาจพอได้แรงหนุน ตราบใดที่ราคาทองคำยังสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ หรือแกว่งตัว Sidewaysโดยคาดกรอบเงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 33.85-34.10 บาท/ดอลลาร์
ด้านกลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.85-34.10 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งค่าเงินบาทอ่อนค่าหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ระงับการซื้อขายในภาคบ่ายวันศุกร์ ด้านเงินเฟ้อพื้นฐานสหรัฐฯ (Core PCE) เดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 0.4%MOM และ 2.8%YOY สูงกว่าตลาดคาด แต่การใช้จ่ายของผู้บริโภคอ่อนแอกว่าที่คาด ส่งผลให้ yields ลดลง
ขณะที่เงินเฟ้อฝรั่งเศสเดือนมีนาคม อยู่ที่ 0.9%YOY ขณะที่เงินเฟ้อสเปนอยู่ที่ 2.2% ต่ำกว่าคาดทั้งคู่ โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความไม่พอใจรัสเซีย และอาจขึ้นภาษีกับน้ำมันหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงได้