เงินบาทเปิดเช้านี้ อ่อนค่าลงหนัก ตามความกังวลนโยบายการค้าสหรัฐ

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาท วันนี้ อยู่ที่ระดับ 34.70 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงหนัก” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 34.21 บาทต่อดอลลาร์ (ณ วันศุกร์ที่ 4 เมษายน) โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาท(USDTHB) เคลื่อนไหวอ่อนค่าลงทะลุโซนแนวต้าน 34.50 บาทต่อดอลลาร์ อย่างชัดเจน (แกว่งตัวในกรอบ 34.12-34.78 บาทต่อดอลลาร์) กดดันโดยการทยอยแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการรีบาวด์สูงขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จากรายงานข้อมูลยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) เดือนมีนาคม ของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น +2.28 แสนราย ดีกว่าที่ตลาดคาด

ขณะเดียวกัน ถ้อยแถลงของประธานเฟดในช่วงคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาก็สะท้อนว่า เฟดยังมีความกังวลผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากแนวโน้มนโยบายการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้เฟดยังไม่เร่งรีบปรับลดดอกเบี้ยอย่างที่ตลาดกำลังคาดหวังอยู่ ซึ่งการปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้กดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง เพิ่มแรงกดดันต่อเงินบาท ขณะเดียวกันเฟดยังมีความกังวลผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากแนวโน้มนโยบายการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้เฟดยังไม่เร่งรีบปรับลดดอกเบี้ยอย่างที่ตลาดกำลังคาดหวังอยู่ ซึ่งการปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้กดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง เพิ่มแรงกดดันต่อเงินบาท

ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาท มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 34.20- 35.00 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.50-34.80 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเงินบาทยังคงเสี่ยงทยอยอ่อนค่าลง บนความผันผวนที่สูงขึ้น จนกว่าตลาดจะคลายกังวลแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ หรือราคาทองคำหยุดปรับตัวลดลงและทยอยรีบาวด์ขึ้น ขณะที่ ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติในระยะสั้นอาจยังคงเห็นแรงขายสินทรัพย์เสี่ยง อย่าง หุ้นไทย ควบคู่การทยอยเข้าซื้อบอนด์ระยะยาวของไทย ขณะที่เงินดอลลาร์เสี่ยงผันผวนสูงในลักษณะ “Two-Way Volatility” ขึ้นกับแนวโน้มการดำเนินนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่จะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงิน

ด้านกลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-34.80 บาท/ดอลลาร์

ทั้งนี้ เงินบาทอ่อนค่าเร็วจากการขึ้น Tariffs ที่ทำให้ sentiment โดยรวมของตลาดการเงินโลกแย่ลง นำโดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ตลาดเอเชียเปิดมาเช้านี้กลับมาเป็นบวกได้ นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่น ด้าน US Treasury yields กลับมาสูงขึ้น

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มเติมอีก 50% หากจีนไม่ยกเลิกการเก็บภาษีตอบโต้ในอัตรา 34% ต่อสินค้าสหรัฐฯ และเงินเฟ้อไทยเดือนมีนาคม ออกมาที่ 0.84%YOY และเงินเฟ้อพื้นฐาน 0.86%YOY ต่ำกว่าตลาดคาดทั้งคู่

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles