ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาท แข็งค่าทะลุแนว 33.00 และ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ไปทำสถิติแข็งค่าสุดในรอบ 31 เดือนที่ 32.36 บาทต่อดอลลาร์ฯ ช่วงเวลาทำการของตลาดในประเทศ (แข็งค่าสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนก.พ. 2565) โดยเงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นตามภาพรวมของสกุลเงินในเอเชีย นำโดย เงินหยวนที่ได้รับอานิสงส์จากความหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการจีน นอกจากนี้เงินบาทยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกที่ไปทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ สวนทาง Sentiment ของเงินดอลลาร์ฯ ที่ยังอ่อนแอต่อเนื่องท่ามกลางกระแสการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในระยะข้างหน้า (โดยตลาดประเมินว่า ยังมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในขนาดที่มากกว่า 25 basis points ในการประชุมครั้งถัดๆ ไป)
ทั้งนี้ ในสัปดาห์นี้ ธปท. มีการส่งสัญญาณติดตามดูแลสถานการณ์เงินบาทอย่างใกล้ชิด หลังเงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะนี้
ในวันศุกร์ที่ 27 ก.ย. 2567 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 32.39 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 33.06 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (20 ก.ย. 67) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 23-27 ก.ย. 2567 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยที่ 695 ล้านบาท และมีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 11,884 ล้านบาท (แบ่งเป็น ขายสุทธิพันธบัตร 11,882 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 2 ล้านบาท)
โดย เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องในช่วงตลาดนิวยอร์กวันศุกร์ 27 ก.ย. 2567 ไปแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 31 เดือนครั้งใหม่ที่ 32.28 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก PCE Price Index ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด
สัปดาห์ระหว่างวันที่ 30 ก.ย.-4 ต.ค. ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 32.10-32.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ รายงานเศรษฐกิจและการเงินเดือนส.ค. ของธปท. ถ้อยแถลงของประธานเฟด ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก และสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI และ ISM ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานเดือนก.ย. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนส.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามตัวเลขดัชนี PMI เดือนก.ย. ของจีน ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/67 ของอังกฤษ และอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย. ของยูโรโซนด้วยเช่นกัน