นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาท เปิดเช้านี้ ที่ระดับ 31.48 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย ” จากระดับปิดของวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 31.44 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) พลิกกลับมาอ่อนค่าลงบ้าง เข้าใกล้โซนแนวต้าน 31.50 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 31.41-31.53 บาทต่อดอลลาร์) ตามจังหวะการรีบาวด์ขึ้นบ้างของเงินดอลลาร์ ทว่าโดยรวมเงินดอลลาร์ก็เคลื่อนไหวในกรอบ Sideways หลังผู้เล่นในตลาดต่างรอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม อย่าง รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ โดยเฉพาะข้อมูลการจ้างงาน
นอกจากนี้ เงินบาทยังเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่า ตามการทยอยปรับตัวลดลงของราคาทองคำ (XAUUSD) ซึ่งยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นทะลุเหนือจุดสูงสุดก่อนหน้า ได้อย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน การปรับตัวลดลงต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบในช่วงนี้ จากความกังวลแนวโน้มอุปทานน้ำมันตลาดโลก หลังการเจรจายุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน มีความคืบหน้ามากขึ้น ก็มีส่วนกดดันเงินบาทได้บ้าง (อย่างน้อยชะลอการแข็งค่าขึ้นของเงินบาท) ผ่านโฟลว์ธุรกรรมที่เกี่ยวกับน้ำมัน
ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาท มองกรอบเงินบาทวันนี้จะอยู่ที่ระดับ 31.40-31.75 บาทต่อดอลลาร์ โดยยังคงมั่นใจว่า เงินบาท (USDTHB) ยังอยู่ในแนวโน้มการแข็งค่าขึ้น และมีโอกาสที่จะแข็งค่ามากกว่าระดับ สิ้นปีแถว 31.85+/-0.25 บาทต่อดอลลาร์ ตามที่เราคาดการณ์ไว้ในรายงานบทวิเคราะห์ Global FX Outlook 2026 ได้ (สามารถอ่านได้ใน LineOA หรือขอรับบทวิเคราะห์ฉบับบเต็มจากทาง Sales ของ Krungthai Global Markets) โดยจากการประเมินด้วยกลยุทธ์ Trend-Following เงินบาทจะยังอยู่ในแนวโน้มการแข็งค่าขึ้น จนกว่าจะสามารถพลิกกลับมาอ่อนค่าทะลุโซน 32.00 บาทต่อดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจน (เราจะปรับมุมมองต่อแนวโน้มเงินบาทใหม่ หากเงินบาทอ่อนค่าทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 30 สัปดาห์ หรือโซน 32.50 บาทต่อดอลลาร์)