นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าเงินบาทวันนี้เปิดเช้าที่ระดับ 34.19 บาทต่อดอลลาร์ ขยับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันที่ผ่านมาที่ระดับ 34.24 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.05-34.40 บาทต่อดอลลาร์ แต่ยังต้องระวังความผันผวนในช่วงตลาดรับรู้ผลการประชุม กนง. ของไทย และ FOMC
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้นบ้างในลักษณะ Sideways Down (กรอบการเคลื่อนไหว 34.15-34.28 บาทต่อดอลลาร์) หนุนโดยการรีบาวด์ขึ้นบ้างของราคาทองคำ (XAUUSD) ที่สามารถทยอยปรับตัวขึ้นสู่โซน 2,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากเผชิญแรงขายหนักในช่วงวันก่อนหน้า โดยราคาทองรวมถึงเงินบาทก็ได้แรงหนุนตามจังหวะการปรับตัวลงของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ หลังผู้เล่นในตลาดต่างรอลุ้นว่า เฟดจะส่งสัญญาณต่อแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้าอย่างไร
โดยผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็เริ่มมีมุมมองว่าเฟดอาจส่งสัญญาณผ่านคาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ใหม่ ว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้มากกว่าที่ตลาดกำลังคาดหวังอยู่ในปัจจุบัน ทำให้ยังคงเห็นแรงซื้อบอนด์ 10 ปี สหรัฐฯ ในจังหวะที่บอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้น และแรงขายทำกำไรการปรับตัวขึ้นของเงินดอลลาร์อยู่
สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทคงประเมินว่าอาจแกว่งตัว Sideways ใกล้โซน 34.20 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างรอลุ้น ทั้งผลการประชุม กนง. ของไทย รวมถึงผลการประชุม FOMC ของเฟดในวันพฤหัสฯ นี้
โดยในช่วงระหว่างวัน เงินบาทอาจมีโซนแนวต้านแถว 34.30 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่โซนแนวรับอาจขยับขึ้นมาแถว 34.10-34.15 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าได้บ้าง หากบรรดานักลงทุนต่างชาติยังคงเดินหน้าขายสินทรัพย์ไทยเพิ่มเติม ทว่าแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าดังกล่าวก็อาจถูกชะลอลงบ้าง ในกรณีที่ราคาทองคำสามารถรีบาวด์ขึ้นต่อเนื่องได้