นางขวัญแก้ว สิริจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการส่วนงานการส่งเสริมธุรกิจ ฝ่ายการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “เซ็นทรัลพัฒนา สร้างประสบการณ์ระดับโลกมาแล้วมากมาย ทั้งสงกรานต์ เคาท์ดาวน์ และอีกมาก เป้าหมายสำคัญอีกงานคือ Thailand Coffee Hub ซึ่งมีพันธมิตรหลักคือสมาคมกาแฟพิเศษไทย เสริมด้วยพันธมิตรแบรนด์กาแฟกว่า 300 ราย ที่ร่วมกันเดินสายจัดงานตลอด 3 ปี สร้างเม็ดเงินให้กับอุตสาหกรรมกาแฟไทย ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท และยังช่วยต่อยอดธุรกิจให้ผู้ประกอบการกาแฟประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย อย่างเช่น Yellow stuff สามารถขยายฐานลูกค้าทั่วประเทศจากการร่วมออกงาน Thailand Coffee Hub ทุกภูมิภาค และได้ขยายจากธุรกิจกาแฟ สู่การขายอุปกรณ์กาแฟต่างๆ ตามเทรนด์ของลูกค้ากลุ่ม Home brewing โดยปีนี้ยังสนับสนุนอุปกรณ์ในการแข่ง Morning Dream Latte Art Championship โดยให้รางวัลบาริสต้าที่ได้แชมป์ไปดูงานที่ต่างประเทศอีกด้วย และอีกหลายแบรนด์ เช่น Nana Coffee Roaster ที่ตัดสินใจเปิดร้านในศูนย์การค้าเซ็นทรัล หลังจากมาร่วมงาน Thailand Coffee Hub เป็นต้น”
ด้านนางสาวณัฏฐ์รดา คุณะวิวัฒนานนท์ นายกสมาคมกาแฟพิเศษไทย กล่าวว่า “ปัจจุบันกาแฟพิเศษมีมูลค่า 2,000 ล้านบาท ของตลาดกาแฟพรีเมียม 20,000 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดกาแฟรวม 100,000 ล้านบาทซึ่งเติบโตเฉลี่ยนับตั้งแต่ปี 2564-2566 อยู่ที่ปีละ 8.55% ในขณะที่กาแฟพิเศษไทยเติบโตต่อเนื่องทุกปีไม่ต่ำกว่า 25% ทั้งในแง่จำนวนร้านและบาริสต้า โดยบริษัทสำรวจข้อมูลทางการตลาดระดับโลก Euromonitor International รายงานมูลค่าตลาดกาแฟไทย พบว่ากาแฟเป็นสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้านการบริโภคกาแฟก็เพิ่มขึ้นทุกปีเช่นกัน จาก 30,000 ตัน เป็น 90,000 ตันต่อปี ภายในระยะเวลา 10 ปี เฉลี่ยวันละ 1.5 แก้วต่อวัน สะท้อนว่าอุตสาหกรรมกาแฟในไทยยังเติบโตได้อีกมาก และการที่จะแข่งขันในระดับโลกได้นั้น เราต้องแข่งขันด้านคุณภาพ ด้วยการผลิตเมล็ดกาแฟพิเศษ เพิ่มมูลค่าของกาแฟให้สมเหตุสมผลกับราคาที่ผู้บริโภคต้องจ่าย ดังนั้นทางสมาคมฯ จึงได้ส่งเสริมตั้งแต่ต้นน้ำคือเกษตรกรผู้ผลิต มีการจัดประกวดกาแฟพิเศษเพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรไทยหันมาทำกาแฟในเชิงคุณภาพมากขึ้น เป็นการช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิตกาแฟพิเศษและค้นหากาแฟที่มีคุณภาพส่งต่อไปถึงปลายน้ำคือผู้บริโภค เพื่อนำเงินเข้ามาในระบบ พัฒนาให้อุตสาหกรรมกาแฟเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยได้ร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างเซ็นทรัลพัฒนา จัดงาน Thailand Coffee Hub เพื่อช่วยกันทำให้อุตสาหกรรมกาแฟในประเทศไทยเจริญเติบโต มีศักยภาพที่จะเป็นที่ยอมรับในเวทีกาแฟพิเศษโลกในอนาคตอันใกล้นี้”
ที่ผ่านมา เซ็นทรัลพัฒนา ได้ร่วมกับ สมาคมกาแฟพิเศษไทย หนุนอุตสาหกรรมกาแฟไทยสู่เวทีโลก ตั้งเป้าจาก Thailand Coffee Hub สู่ World Coffee Hub โดยปี 2565 เซ็นทรัลพัฒนา และสมาคมกาแฟพิเศษไทย ร่วมกันจัดเทศกาลงานกาแฟ “Thailand Coffee Hub” ครั้งแรกที่เซ็นทรัลเวิลด์ และโรดโชว์ยังศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วทุกภูมิภาค ตามหัวเมืองใหญ่ และเมืองท่องเที่ยว โดยที่เซ็นทรัลเวิลด์ มีผู้ร่วมงานแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 100,000 คน เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40%- 50% และในสาขาอื่นๆ มีผู้ร่วมงานแต่ละครั้งราว 30,000 – 50,000 คน ได้กระแสตอบรับอย่างล้นหลาม เนื่องจากเป็นศูนย์รวมของกาแฟคุณภาพดีจากทุกแหล่งปลูกทั่วไทย ที่ผ่านการรับรองจากสมาคมกาแฟพิเศษไทย รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ใน coffee ecosystem รวมไว้ในงานเดียว โดยมีผู้ประกอบการกาแฟและธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานเพิ่มมากขึ้นทุกปี งานขยายใหญ่ขึ้นทุกปีตามไปด้วย รวมทั้ง เป็นศูนย์รวม Coffee Community ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้สัมผัสสุดยอดกาแฟพิเศษไทย และวัฒนธรรมการดื่มและชงกาแฟจากประเทศต่างๆ อาทิ Taye Ethiopian Coffee เอกลักษณ์การคั่วกาแฟสดสไตล์เอธิโอเปีย ซึ่งมีการจุดควันด้วยเปลือกไม้สมุนไพรเพื่อสร้างบรรยากาศอันหอมหวน หรือ Shalobar จากประเทศตุรกี กับ ‘Sand Coffee’ เทคนิคการชงกาแฟแบบดั้งเดิมของอาณาจักรออตโตมัน ใช้ทรายเป็นตัวกระจายความร้อน เพิ่มความนุ่มและสัมผัสครีมมีให้กับกาแฟ และอีกกว่า 10 ประเทศจากหลายทวีปทั่วโลกในงานปีนี้ และจะเพิ่มประสบการณ์กาแฟดีดีอีกมากมายในปีต่อไป โดยตั้งเป้าสู่เทศกาลกาแฟที่คอกาแฟทั่วโลกอยากมาเยือน
ทั้งนี้ วางกลยุทธ์ Support Local & Cross-Region เชิญแบรนด์กาแฟประจำท้องถิ่นในจังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมงาน และ Roadshow ด้วยกันทั่วประเทศ เพื่อทำให้แบรนด์เหล่านั้นเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และเพื่อให้คอกาแฟได้ลิ้มรสกาแฟต่างถิ่นที่แสดงถึง อัตลักษณ์ของแต่ละแหล่ง เช่น การจัดงานที่เซ็นทรัล จันทบุรี มี “กาแฟจันทบูร” กาแฟอาริบิกาสายพันธุ์เฉพาะที่ปลูกใน จ.จันทบุรี และมีแบรนด์ดังๆ ประจำภาคตะวันออกมาร่วมงานมากกว่า 20 แบรนด์ อาทิ Sila Roasters, Rosetta Coffee Roaster, Sunset Coffee Roasters, Summer Please รวมกับแบรนด์กาแฟดังๆ จากทั่วประเทศ อาทิ Graph จ.เชียงใหม่, Sunset Coffee Roaster จ.ชัยนาท, Baan Xiao Chai Coffee & Tea จ.ขอนแก่น ฯลฯ หรือการจัดงานที่เซ็นทรัลหาดใหญ่ มีโซน Fine Robusta โดยเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟโรบัสต้าในภาคใต้มาเปิดบูธให้ชิม โปรโมท และจำหน่ายกาแฟโรบัสต้ารูปแบบใหม่ๆ รวมทั้งรวมร้านดังข้ามภาคมาให้คอกาแฟชาวใต้ได้ลิ้มรสเช่นกัน อาทิ Maled จ.เชียงใหม่, First Valley จ.เชียงใหม่, Sudrit จ.น่าน, Rosetta Coffee Roaster จ.ฉะเชิงเทรา ฯลฯ
โดยตั้งเป้า Local to Global สนับสนุนเมล็ดกาแฟพิเศษของไทยให้เป็นที่รู้จัก และส่งเสริมธุรกิจทั้งรูปแบบของ B2C และ B2B สามารถ up scale ธุรกิจของผู้ประกอบการให้เติบโต จากการมาร่วมงานฯ พร้อมจัดเวทีประกวดบาริสต้าไทย เพื่อส่งไปแข่งขันในเวทีต่างประเทศ ร่วมกันเฟ้นหา Rising star barista ทุกปีจากการแข่งขันภายในงาน เพื่อส่งบาริสต้าไทยสู่เวทีระดับนานาชาติ สร้างชื่อเสียงให้กับวงการกาแฟของไทย เสริมแกร่งจากพันธมิตรธุรกิจที่เกี่ยวข้อง จับเทรนด์ความนิยมเครื่องดื่มที่เป็น Craft Drink และ Specialty โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z ขยายจากอุตสาหกรรมกาแฟ สู่ Craft Cocoa, Specialty Matcha รวมทั้งต่อยอดจัดงานต่างๆ เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับพฤติกรรมของกลุ่ม Gen Z ซึ่งเดิมไปงานกาแฟเพื่อถ่ายภาพทำคอนเท้นต์ เปลี่ยนเป็นสนใจชิมอย่างจริงจัง ได้แก่งาน Coffee Society, Coffee Hub Connect, Thailand Craft Cocoa, Craft Cocoa Village, Taste of Tea โรดโชว์ไปยังศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศตลอดทั้งปีเพิ่มขึ้นอีกด้วย
สำหรับงาน Thailand Coffee Hub ก้าวสู่ปีที่ 3 เปิดแคมเปญที่ centralwOrld ก่อนจะโรดโชว์ไปทั่วทุกภูมิภาคจนถึงปีหน้า ภายใต้แนวคิด The Coffee universe: A Space of Endless Passion” จักรวาลคน(รัก)กาแฟไม่สิ้นสุด เพื่อสื่อถึงแรงบันดาลใจและความหลงใหลใน coffee lifestyle ของกลุ่มคนรักกาแฟรวมทั้งสื่อถึงเมนูกาแฟพิเศษมากมายนับพันเมนูให้เลือก Sip ในงานเดียว พร้อมด้วยโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะในงานนี้เท่านั้น