ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบนิวยอร์กในเดือนพฤษภาคมที่เหลืออีกเพียง 1 วันที่จะสิ้นสุดในเดือนนี้ พบว่า มีราคาลดต่ำลงมากถึง -4.9% ทำสถิติราคาน้ำมันดิบนิวยอร์กที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 5 เดือน หรือตั้งแต่ธันวาคม 2023 เป็นต้นมา สอดรับกับตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ รายงานว่า มีราคาลดต่ำลงมากถึง -6.8% ทำสถิติราคาน้ำมันดิบเบร็นท์สุทธิที่ลดต่ำลงเป็นเดือนแรกในรอบ 5 เดือนผ่านมา และยังทำสถิติราคาสุทธิย่ำแย่ที่สุดในรอบ 5 เดือน หรือตั้งแต่ธันวาคม 2023 เป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงราคาปิดในคืนผ่านมา 30 พฤษภาคม 2024 นั้น ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง ยังคงเพิ่มขึ้น +8.74% และ +6.2% ตามลำดับ สอดรับกับราคาน้ำมันเบนซินล่วงหน้าในสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มขึ้น +14.3% ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน
ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกมีการซื้อขายที่ทำให้ราคาเคลื่อนไหวในช่วงแคบพอสมควร เนื่องจากความต้องการบริโภคน้ำมันดิบของประเทศยักษ์ใหญ่ของโลกลดลง ส่งผลปริมาณสต็อกน้ำมันดิบในตลาดสำคัญทรงตัวต่อเนื่อง ในขณะที่ ความต้องการบริการบริโภคน้ำมันดิบในจีนชะลอตัวลงด้วย
ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 77.91 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.32 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.7% ส่งผลราคาปิดลง 2 วันติดกันรวม -1.92 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.4% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 81.86 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.74 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.1% ส่งผลราคาปิดลง 2 วันติดกันรวม -2.36 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.8%
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง ร่วงมากถึง -2.8% และ -2.1% ตามลำดับ
สาเหตุจากมีการคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินจะลดน้อยลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันเบนซินล่วงหน้าร่วงลงกว่า 2% มาอยู่ที่ 2.40 ดอลลาร์สหรัฐ/แกลลอน ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 3 เดือน สอดรับกับ ราคาน้ำมันดีเซลล่วงหน้าปิดตกต่ำมากสุดในรอบ 11 เดือน ในวันศุกร์นี้ที่สหรัฐจะประกาศตัวเลขรายได้การบริโภคส่วนบุคคลชาวอเมริกันเดือนเมษายน ซึ่งเป็นตัวเลขสำคัญเกี่ยวกับทิศทางเงินเฟ้อในสหรัฐ ที่จะส่งผลถึงโอกาสลดดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐ ทำให้มีผลต่อต้นทุนการบริโภคน้ำมันเพิ่มมากขึ้นในอนาคต และกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก