พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ประเทศไทยเผชิญภาวะปัญหาความสูงเด็กไทยับตั้งแต่แรกเกิด ปัจจุบัน เด็กไทยมีภาวะเตี้ยโดยเด็กอายุ 0-5 ปีเข้าข่ายเตี้ยมีถึง 12.9% ส่วนเด็กวัยเรียนเข้าข่ายเตี้ยมี 10.8% สำหรับส่วนสูงของคนไทยในปัจจุบันถูกจัดอยู่อันดับที่ 111 จาก 190 ประเทศทั่วโลก เมื่อพิจารณาเป็นเพศ พบว่าผู้หญิงไทยมีส่วนสูงเฉลี่ยเพียง 159.4 ซม. ส่วนผู้ชายมีส่วนสูงเฉลี่ยเพียง 171.6 ซม.
อย่างไรก็ตาม ความสูงเฉลี่ยของชาย และหญิงไทยในวัยครบ 19 ปี เมื่อเทียบกับอีก 10 ประเทศในอาเซียน พบว่า มีความสูงเฉลี่ยเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน โดยชายไทยสูงเฉลี่ย 171.61 ซม. หญิงไทยสูงเฉลี่ย 159.4 ซม. เป็นรองเพียงประเทศสิงคโปร์ที่มีผู้ชายและผู้หญิงสิงคโปร์ที่สูงเฉลี่ย 173.5 และ 161.3 ซม. ตามลำดับ ส่วนประเทศติมอร์-เลสเต มาอันดับท้ายสุด เนื่องจากมีผู้ชายและผู้หญิงที่สูงเฉลี่ย 160.13 และ 152.71 ซม.ตามลำดับ ขณะที่ค่าความสูงเฉลี่ยชายและหญิงวัย 19 ปีในอาเซียนอยู่ที่ 166.90 ซม. และ 155.89 ซม. ตามลำดับ
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เด็กไทยมีความเตี้ย คือคนไทยยังดื่มนมน้อยมากหากเทียบกับประเทศอื่นๆ พฤติกรรมการดื่มนมของเด็กรวมถึงวัยผู้ใหญ่ของคนไทยจึงมีความสำคัญมาก ข้อมูลในปัจจุบันยังพบว่า คนไทยดื่มนมเฉลี่ยเพียง 23.1 ลิตร/คน/ปี หรือคนละ 2 แก้ว/สัปดาห์ ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยดื่มนมจากทั่วโลกที่ 31.0 ลิตร/คน/ปี นอกจากนี้ เมื่อนำสถิติของคนไทยไปเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชีย เช่น ไต้หวันดื่มนม 80.5 ลิตร/คน/ปี ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ดื่มนม 36.0 ลิตร/คน/ปี และฮ่องกง 27.8 ลิตร/คน/ปี นั่นหมายถึงคนไทยดื่มนมต่ำกว่าหลายชาติในเอเชีย นั่นหมายถึงคนไทยดื่มนมต่ำกว่าประเทศดังกล่าวในเอเชียถึงกว่า 20% ขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในโลกตะวันตก เช่น เดนมาร์กดื่มนม 52.0 ลิตร/คน/ปี และแคนาดา 56.8 ลิตร/คน/ปี นั่นหมายถึงคนไทยดื่มนมต่ำกว่าโลกตะวันตกถึงกว่า 2 เท่า
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดเป้าหมายในการสนับสนุนให้คนไทยดื่มนมเพิ่มขึ้นมากกว่า 25 ลิตรต่อคนต่อปีภายใน ปี 2570 โดยเฉพาะนมโคแท้ 100%