เทสลา อินคอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถบีอีวีระดับหรูหราและชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าประกาศเรียกคืนรถกระบะไฟฟ้า มีชื่อว่า ไซเบอร์ทรัค จำนวน 3,878 คัน หลังจากสำนักบริหารจัดการความปลอดภัยการจราจรไฮเวย์แห่งชาติ สหรัฐอเมริกา หรือ NHTSA เปิดเผยว่า พบปัญหาแป้นเหยียบที่ประกบกับแป้นคันเร่งหลวม ซึ่งเกิดจากวัสดุหล่อลื่นที่ใช้ประกอบแป้นเหยียบ ส่งผลให้เมื่อคนขับใช้แรงเหยียบคันเร่งแรงขึ้นบ่อยขึ้น อาจทำให้แป้นเหยียบด้านหน้าที่ประกบกับคันเร่งหลุดออก ส่งผลให้แป้นคันเร่งอาจติดในซอกภายในได้
NHTSA เปิดเผยต่อไปว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดจากการตรวจสอบพบว่า พนักงานในโรงงานผลิตรถไซเบอร์ทรัคของเทสลาที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ใช้สารหล่อลื่นคล้ายสบู่(Soap)ช่วยหล่อลื่นในการประกอบชิ้นส่วนแป้นเหยียบเข้ากับแป้นคันเร่ง สำหรับรุ่นดังกล่าวที่ถูกเรียกคืนในครั้งนี้เป็นโมเดลปี 2024 ที่ผลิตระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน 2023 ถึงวันที่ 4 เมษายน 2024 นั่นหมายถึง อาจเป็นจำนวนรถกระบะไฟฟ้าเกือบทั้งหมดที่วิ่งอยู่บนถนนในสหรัฐอเมริกาที่ถูกเรียกคืนในครั้งนี้
สำหรับรุ่นไซเบอร์ทรัคนั้น เมื่อวันที่ 6 เมษายนผ่านมา เทสลา ประเทศไทย ได้นำรถคันจริงเข้ามาเปิดตัว Cybertruck ที่ศูนย์เทสลา รามคำแหง กรุงเทพฯ รถรุ่นนี้ ประกอบด้วยขับเคลื่อนแบบ RWD ราคาประมาณ 2,133,860 บาท และรุ่น AWD ขับเคลื่อนทั้ง 4 ล้อ ในราคาประมาณ 2,812,448 บาท โดยตัวท็อป Cyberbeast มีราคา 99,990 ดอลลาร์ หรือ 3,515,648 บาท
ย้อนกลับเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ผ่านมา เทสลา อินคอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถบีอีวีระดับหรูหราและชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา ประกาศเรียกคืนรถไฟฟ้าเทสลาครั้งมากเป็นประวัติการณ์มากถึง 2.2 ล้านคัน หรือเกือบทั้งหมดของรถเทสลาที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา สาเหตุจากสำนักบริหารจัดการความปลอดภัยการจราจรไฮเวย์แห่งชาติ สหรัฐอเมริกา หรือ NHTSA เปิดเผยว่าปัญหาขนาดตัวอักษรไม่ถูกต้องที่แสดงบนสัญญานไฟเตือน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุชน เนื่องจากผู้ขับอ่านสัญลักษณ์ไฟเตือนยากลำบาก สำหรับรุ่นที่ถูกเรียกคืนในครั้งนี้ ประกอบด้วย โมเดล S, โมเดล X, โมเดล 3 ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2017-2023, โมเดล Y และรุ่นไซเบอร์ทรัคส์ 2024
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2023 ผ่านมา เทสลา อินคอร์ปอเรชั่น ประกาศเรียกคืนรถไฟฟ้าเทสลาครั้งใหญ่รวมมากกว่า 2.03 ล้านคัน เพื่อแก้ไขปัญหาระบบช่วยขับเคลื่อน หรือออโต้ ไพลอท (Auto Pilot) เนื่องจากสำนักบริหารจัดการความปลอดภัยการจราจรไฮเวย์แห่งชาติ สหรัฐอเมริกา หรือ NHTSA เปิดเผยข้อสรุปว่าระบบช่วยขับเคลื่อนดังกล่าวของเทสลาไม่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากพอที่จะป้องกันการใช้งานในทางที่ผิดวัตถุประสงค์
สำหรับรถไฟฟ้าเทสลาที่ถูกเรียกคืนจำนวน 2.03 ล้านคัน ครอบคลุมทุกรุ่น ได้แก่ โมเดล Y, โมเดล S, โมเดล 3 และโมเดล X ที่ผลิตในช่วงระหว่างวันที่ 5 ตุลาคม 2012 ถึงวันที่ 7 ธันวาคม ปี 2023 นี้
การประกาศเรียกคืนรถไฟฟ้าเทสลาจำนวน 2.03 ล้านคัน นับเป็นการเรียกคืนครั้งที่ 2 ในปี 2023 นี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ หรือ Automated-driving system หลังจากถูกตรวจสอบอย่างละเอียดในระบบดังกล่าว หลังจากมีรายงานเกี่ยวกับอุบัติเหตุชนกันเป็นจำนวนมากกว่าร้อยเหตุการณ์ และบางเหตุการณ์ส่งผลให้เกิดการเสียชีวิต
เทสลา อินคอร์ปอเรชั่น ระบุว่าระบบช่วยเหลือการขับเคลื่อนรถไฟฟ้า หรือ Autopilot เป็นชุดฟีเจอร์การช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงที่มีไว้เพื่อให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้นและเกิดความเครียดน้อยลง ไม่มีฟีเจอร์ใดที่ทำให้ Model Y เป็นแบบอัตโนมัติอย่างสมบูรณ์หรือแทนที่คุณในฐานะผู้ขับขี่ ฟีเจอร์ Autopilot เป็นมาตรฐานสำหรับรถ Tesla ใหม่ทั้งหมด
ขณะที่เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2023 ผ่านมา เทสลา เรียกคืนรถไฟฟ้าเทสลารุ่นโมเดล X และโมเดล S รวมจำนวน 120,423 คัน ซึ่งผลิตระหว่างปี 2021 ถึงปี 2023 หลังพบปัญหาสลักล็อกประตูไม่ล็อก และประตูรถเปิดเองได้ขณะเกิดอุบัติเหตุการชน
ด้านสำนักบริหารจัดการความปลอดภัยการจราจรไฮเวย์แห่งชาติ สหรัฐอเมริกา หรือ NHTSA เปิดเผยว่า ปัญญาดังกล่าว เพิ่มความเสี่ยงของการได้รับบาดเจ็บ และหมายถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีประสบความล้มเหลวในด้านที่จะผลิตออกมาให้ยึดถือกฎระเบียบด้านความปลอดภัยของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา