นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล กล่าวว่า รัฐบาลควรใช้ช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นโอกาสสำคัญในการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจที่มีผลในระยะยาว เพื่อให้การแจกเงิน หรือมาตรการพิเศษไม่เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่ช่วยวางรากฐานที่ยั่งยืน นอกจากนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นางสาวอัญชลี รัตนะ อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า การมอบของขวัญปีใหม่ควรเน้นการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชน เพื่อให้คนไทย “มีกิน มีใช้ มีเกียรติ และมีศักดิ์ศรี“
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศเกี่ยวกับคนไทยกับของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล โดยทำการสำรวจทั้งทางออนไลน์และภาคสนามกับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,246 คน ระหว่างวันที่ 3-6 ธันวาคม 2567 โดยเฉพาะความต้องการของประชาชนต่อของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล โดย ปรากฏว่า อันดับ 1 ร้อยละ 59.95 ระบุว่า มาตรการแจกเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเป็นของขวัญที่ต้องการมากที่สุด อันดับ 2 ร้อยละ 58.03 คือ การช่วยลดค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าพลังงานต่าง ๆ และ อันดับ 3 ร้อยละ 53.17 มาตรการลดค่าครองชีพ
ผลสำรวจนี้สะท้อนความต้องการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงภาระค่าครองชีพที่ประชาชนต้องแบกรับในปัจจุบัน ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงความหวังในช่วงเทศกาล แต่ยังแสดงถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องการการแก้ไขอย่างจริงจังจากรัฐบาล
สำหรับประเด็นปัญหาเร่งด่วนที่ประชาชนอยากให้รัฐบาลแก้ไขก่อนถึงปีใหม่ ได้แก่ อันดับ 1 ร้อยละ 66.48 ปัญหาค่าครองชีพ อันดับ 2 ร้อยละ 57.71 ปัญหายาเสพติด และ อันดับ 3 ร้อยละ 56.46 ปัญหาน้ำท่วม/ภัยแล้ง
นางสาวอัญชลี รัตนะ อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวทิ้งท้ายว่า ผลสำรวจจากสวนดุสิตโพลครั้งนี้สะท้อนถึงความต้องการและความคาดหวังของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งนอกจากมาตรการแจกเงินและลดค่าครองชีพที่ได้รับความนิยมแล้ว ยังเป็นโอกาสสำคัญสำหรับรัฐบาลในการกำหนดทิศทางนโยบายเศรษฐกิจที่ยั่งยืน เพื่อช่วยให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่เพียงในเทศกาลพิเศษ แต่ในทุกช่วงเวลาของปี
