ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รายงานสถานการณ์ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยที่ยังอยู่ระหว่างขายในช่วงครึ่ง หลังปี 2567 ของจังหวัดภาคใต้ 4 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดภูเก็ต สงขลา สุราษฎธานี และนครศรีธรรมราช โดยภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในภาคใต้ฟื้นตัวมากกว่าภาคอื่นๆ ซึ่งมาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ 1.การโอนที่เกิดจากการขายโครงการเก่าที่ชะลอการโอนกรรมสิทธิ์จากช่วงหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 2. การขยายตัวของธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ และ 3.สงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งมีผลโดยตรงกับตลาดวิลล่าและคอนโดมิเนียมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดภูเก็ต
โดยภาพรวมในครึ่งหลังปี 2567 ภาคใต้ 4 จังหวัดดังกล่าวมีจำนวนที่อยู่อาศัยเสนอขาย 26,442 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.0 มูลค่า 175,205 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.9 แบ่งเป็นโครงการอาคารชุด 17,254 หน่วย มูลค่า 13,1192 ล้านบาท และ โครงการบ้านจัดสรร 9,188 หน่วย มูลค่า 44,013 ล้านบาทโดยมีที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่จำนวน 12,019 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 69.6 มูลค่า 86,770 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 54.5 แบ่งเป็นโครงการอาคารชุด 10,826 หน่วย มูลค่า 80,389 ล้านบาท และ โครงการบ้านจัดสรร 1,193 หน่วย มูลค่า 6,381 ล้านบาท
สำหรับที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ในช่วงเวลาเดียวกันมีจำนวน 9,430 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 49.6 มูลค่า 69,008 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 92.4 ในจำนวนที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ดังกล่าวแบ่งเป็นโครงการอาคารชุด 7,305 หน่วย มูลค่า 58,880 ล้านบาท และโครงการบ้านจัดสรร 2,125 หน่วย มูลค่า 10,127 ล้านบาท โดยมีจำนวนที่อยู่อาศัยเหลือขาย 17,012 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 มูลค่า 106,197 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.3 ในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นโครงการอาคารชุด 9,949 หน่วย มูลค่า 72,312 ล้านบาท และ โครงการบ้านจัดสรร 7,063 หน่วย มูลค่า 33,885 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบระหว่างตลาดที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างขายของ 4 จังหวัดนี้ พบว่า จังหวัดภูเก็ต และ จังหวัดสงขลา
เป็นจังหวัดที่มีขนาดตลาดเป็นลำดับ 1 และ 2 ในทุกด้าน
สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยจังหวัดภูเก็ต ช่วงครึ่งหลังปี 2567 สำรวจในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีที่อยู่อาศัยที่เสนอขายรวมทั้งสิ้น 17,627 หน่วย มูลค่า 138,251 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.2 และ เพิ่มขึ้นร้อยละ 51.3 โดยแบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 2,116 หน่วย มูลค่า 11,629 ล้านบาท โครงการอาคารชุด 15,511 หน่วย มูลค่า 126,622 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งหลังปี 2567 มีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 10,613 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 79.5 มูลค่า 81,180 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 67.2 ส่วนจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่มีจ านวน 7,468 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 72.1 มูลค่า 61,173 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 116.8 โดยมีจำนวนที่อยู่อาศัยเหลือขาย 10,159 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.4 มูลค่า 77,078 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 (YoY) เมื่อพิจารณาลงรายละเอียดตามรายพื้นที่ พบว่าทำเลที่มีที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่สูงสุดในจังหวัดภูเก็ต 5 อันดับแรก
อันดับ 1 โซนหาดบางเทา-หาดสุรินทร์ จำนวน 3,428 หน่วย มูลค่า 39,848 ล้านบาท
อันดับ 2 โซนฉลอง-วิชิต จำนวน 905 หน่วย มูลค่า 3,011 ล้านบาท
อันดับ 3 โซนหาดราไวย์ จำนวน 790 หน่วย มูลค่า 5,611 ล้านบาท
อันดับ 4 โซนหาดกะรน-หาดกะตะ จ านวน 707 หน่วย มูลค่า 4,331 ล้านบาท
อันดับ 5 โซนเทพกระษัตรี-ศรีสุนทร จำนวน 520 หน่วย มูลค่า 1,913 ล้านบาท
ทำเลที่มีที่อยู่อาศัยเหลือขายสูงสุด 5 อันดับแรก
อันดับ 1 โซนหาดบางเทา-หาดสุรินทร์ จำนวน 4,466 หน่วย มูลค่า 46,411 ล้านบาท
อันดับ 2 โซนหาดราไวย์ จำนวน 1,418 หน่วย มูลค่า 9,173 ล้านบาท
อันดับ 3 โซนฉลอง-วิชิต จำนวน 952 หน่วย มูลค่า 2,965 ล้านบาท
อันดับ 4 โซนหาดกะรน-หาดกะตะ จำนวน 731 หน่วย มูลค่า 4,066 ล้านบาท
อันดับ 5 โซนเทพกระษัตรี-ศรีสุนทร จำนวน 706 หน่วย มูลค่า 2,762 ล้านบาท