ผู้จัดการเครดิตบูโร นายสุรพล โอภาสเสถียร โพสต์ข้อความเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้ในประเทศไทยมี โดยมีข้อความส่วนหนึ่งเกี่ยวกับกลุ่ม หรือประเภทบัญชีลูกหนี้คนไทย ดังนี้
19.03.2568 สถาบันวิจัยป๋วย ซึ่งมีนักวิจัยที่เก่งมากๆ ท่านเหล่านั้นได้นำข้อมูลสถิติที่ไม่มีตัวตนจากเครดิตบูโรจำนวนกว่า 27 ล้านลูกหนี้ ไปแยกแยะสุขภาพทางการเงินจากภาระหนี้สินแล้วนำไปนำเสนอในงานสัมนาวิชาการของธนาคารกลางปีที่แล้ว ข้อมูลมันบอกว่า ในระบบการเงินของเราเวลานี้มีคนที่มีสุขภาพทางการเงินในระดับดี ซึ่งน่าจะพอยื่นกู้ได้เพียง 25% ครับ ที่เหลือก็ดูจะมีเงื่อนไขที่ดูจะยากในการได้รับอนุมัติตามมาตรฐานสินเชื่อในปัจจุบันที่เข้มถึงเข้มมาก
ความหลากหลายของสถานการณ์หนี้ของคนไทย ซึ่งยังไม่รวมผู้กู้ และหนี้อื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในเครดิตบูโร มีดังนี้
1. กลุ่มหนี้มีสภาพการเงินดี Healthy มี 4.7 ล้านคน หรือ 25% จ่ายคืนหนี้ตามปกติ และมีหนี้ตามกำลังหรือศักยภาพ 2. กลุ่มหนี้เกินตัวยังจ่ายได้ตามปกติ overleverage มี 3.8 ล้านคน หรือ 20% จ่ายคืนหนี้ตามปกติ แต่เริ่มมีภาระหนี้เกินกำลังหรือศักยภาพ 3. กลุ่มหนี้เสี่ยงโซนเรื้อรัง แต่ยังมีกำลังจ่ายหนี้คืน At Risk มี 2.4 ล้านคน หรือ 13%
4. กลุ่มหนี้เสี่ยงโซนเรื้อรัง และมีหนี้เกินตัว Constrained/at risk มี 4.8 ล้านคน หรือ 25% เป็นกลุ่มที่เสี่ยงเป็นหนี้เรื้อรังและมีการก่อหนี้เกินศักยภาพ 5. กลุ่มหนี้เสีย NPL มี 300,000 คน หรือ 1% เป็นกลุ่มที่มีรายการไม่จ่ายหนี้ภายใน 90 วันอย่างน้อย 1 รายการหนี้ แต่ยังพอมีศักยภาพเหลืออยู่บ้าง และสุดท้าย กลุ่ม 6. กลุ่มหนี้เสีย และหมดศักยภาพ Constrained NPL มี 3.1 ล้านคน หรือ 16% เป็นกลุ่มที่มีรายการไม่จ่ายหนี้ภายใน 90 วันอย่างน้อย 1 รายการหนี้ และมีหนี้เกินศักยภาพ
การฟื้นตัวของรายได้ไม่มากพอ ไม่ทั่วถึง ยังมาไม่เต็มที่และไม่เหมือนเดิม ประกอบกับคนที่พยายามจะขอกู้ติดกำแพงดังนี้ ชนกำแพงอายุ เพราะถ้าจะต้องผ่อนเกินอายุ 60,65ปี ใครเขาจะให้กู้ ชนกำแพงรายได้ เพราะมันมีข้อกำหนดเรื่อง Debt to income, หนี้ต่อรายได้ ว่าเต็มศักยภาพในการหารายได้มาจ่ายหนี้ถ้าจะก่อเพิ่มได้มั้ย ชนกำแพงสถานะทางเครดิตคือ เป็นคนเคยค้างชำระมั้ย เป็นคนที่กำลังค้างอยู่มั้ย เป็นหนี้เสียมั้ย เคยเป็นหนี้ปรับโครงสร้างมั้ย สารพัดในคุณลักษณะครับ อย่างที่กล่าวข้างต้น เรามีคนสุขภาพทางการเงินดี 25% หรือประมาณ 5ล้านคน ซึ่งหลายคนไม่มีความจำเป็นต้องกู้