นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และอดีตปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงข้อเสนอปัญหาที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งที่สภาพเงินเฟ้อ และคำวิจารณ์ของสังคมว่าธนาคารได้กำไรมาก ขณะที่เศรษฐกิจยังไม่ดี ไปถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เรื่องการดำเนินการของสถาบันการเงินเป็นหน้าที่ของ ธปท. ที่คงจะต้องให้ความสำคัญในการสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตของสถาบันการเงิน กับการได้รับบริการที่เป็นธรรมของผู้บริโภค เพราะ ธปท.ถือว่าเป็นผู้กำกับดูแลสถาบันการเงิน โดยตนมี 2 หลักการที่จะเสนอ อย่างแรกคือต้องสร้างความเป็นธรรมระหว่างคู่แข่งขัน และอย่างที่สอง คือสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภค
นายสถิตย์กล่าวต่อว่า ถ้าผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น การแข่งขันของธนาคารก็จะต้องเข้มข้นขึ้น เพื่อผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์มากขึ้น แต่การที่จะทำให้การแข่งขันของสถาบันการเงินนั้นเข้มข้นขึ้น นอกเหนือจากการเปิดโอกาสให้มีสถาบันการเงินมากขึ้นแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ตอบสนองต่อการให้ประชาชนได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้นอย่างเป็นธรรม เช่น การได้รับสินเชื่อเงินกู้ที่เหมาะสม
“ฉะนั้นการที่มีหัวข้อวิพากษ์วิจารณ์กันถึงเรื่องกำไรของสถาบันการเงินก็คงเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับการกำกับดูแลความเป็นธรรมของสถาบันการเงินกับผู้บริโภค ซึ่งคงต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ และต้องหาทางแก้ไข เพื่อที่จะให้ความเป็นธรรม”