นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่ากการะทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำหรับโครงการ “สลากเกษียณ” หรือ หวยเกษียณ ขณะได้ผ่านการอนุมัติในหลักการจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้ได้มอบหมายให้กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เร่งดำเนินการแก้ไขกฎหมายกอช. โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) และกระทรวงการคลัง ในการปรับกฎหมาย คาดว่าจะนำร่างกฎหมายเสนอครม.ได้ ช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ ซึ่งจะเร่งให้เร็วที่สุด เนื่องจากตอนนี้กระแสตอบรับ “สลากเกษียณ” จากประชาชนดีมาก
ทั้งนี้ นายเผ่าภูมิยืนยันว่า หวยเกษียณ ไม่มีผลกระทบต่อผู้ค้าสลาก เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์คนละประเภทกัน ทั้งลักษณะของเกมการเล่น และเงินรางวัล โดยพุ่งเป้าไปแข่งกับหวยใต้ดิน มากกว่าไปแย่งตลาดหวยบนดิน ส่วนรูปแบบเกม เป็นลักษณะหวยขูดแบบดิจิทัล โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะใช้ รูปแบบ ตัวเลข รูปภาพ กรือชื่อจังหวัด/อำเภอ อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่ซื้อหวยไม่สามารถเลือกใบสลากได้ โดยสลากเกษียณหนึ่งใบ จะมีวงกลม 10 วง และสามารถขูดลุ้นรางวัลได้
โดยแนวคิดตอนนี้ กำลังพิจารณาหน้าตาของหวยใน 3 รูปแบบ ได้แก่ ตัวเลข รูปภาพ หรือ ชื่อจังหวัดหรือ ชื่ออำเภอ ยกตัวอย่าง เช่น รางวัลที่ 1รางวัลที่ออก คือ ชื่อจังหวัดสกลนคร สีเขียว ใครขูดเจอวงกลมที่มีชื่อจังหวัดสกลนคร สีเขียว ก็จะได้รับรางวัลที่1 ไปเลย ส่วนรางวัลที่ 2 อาจจะเป็นชื่ออำเภอบางพลีสีแดง ใครเจอก็จะถูกรางวัลที่ 2 เป็นต้น ยืนยันว่าลักษณะเกมแตกต่างจากสลากกินแบ่งรัฐบาล
สำหรับการจำหน่ายหวยเกษียณ 5 ล้านใบต่องวดต่อสัปดาห์ ยังไม่ใช่ตัวเลขที่ตายตัว สามารถปรับเปลี่ยนหรือยืดหยุ่นได้ แต่ในช่วงเริ่มต้นโครงการจะกำหนดไว้ที่ 5 ล้านใบต่องวดก่อน ทั้งนี้ การจำหน่ายสลาก 5 ล้านใบต่องวด จะมีเงินเข้าไปในการบริหารจัดการของ กอช. ที่ 1.3 หมื่นล้านบาทต่อปี เฉลี่ย 10 ปี เท่ากับวงเงิน 1.3 แสนล้านบาท ซึ่งทำให้ กอช.ก็จะเป็นหน่วยงานเสาหลักในการออมของประเทศทันที อย่างไรก็ดี ได้มอบนโยบายให้ กอช.เลือกลงทุนในช่องทางที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด เพื่อรักษาเงินออมของประชาชนไว้
นอกจากนี้ ระบบการออกรางวัลผ่านแอพพลิเคชัน กอช. ไม่ได้มีความซับซ้อน เพราะตัวแอพพ์ ของกอช. มีลักษณะเป็นบัญชีแยกของสมาชิกแต่ละคน เพียงแต่ต้องเพิ่มฟีเจอร์ สำหรับผู้ถูกรางวัล เมือ่ถูกก็จะแจ้งเตือนให้ไปกดรับเงินรางวัล และระบบก็จะโอนเงินรางวัลเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ส่วนการออกรางวัลเป็นหน้าที่ของสำนักงานสลากฯ
ขณะที่การจัดสรรรางวัล หวยเกษียณนั้นยืนยันว่า ไม่กระทบต่อภาระงบประมาณแน่นอน เนื่องจากใช้งบประมาณในการดำเนินการต่ำมาก เฉลี่ย 1 สัปดาห์ ใช้งบในการจ่ายรางวัลเพียง 15 ล้านบาท คิดเป็นใช้งบประมาณ 60 ล้านบาทต่อเดือน และเฉลี่ยทั้งปีใช้งบประมาณ 700-800 ล้านบาทเท่านั้น
ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังยัง ได้จัดงานสัมมนาเพื่อสร้างการรับรู้กับประชาชน และจะมีจัดงาน หวยเกษียณสัญจร ไปทั้งสี่ภาคทั่วประเทศไทย โดยเริ่มที่แรกคือ ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ในครั้งนี้ และต่อไปจะเป็นจังหวัด พิษณุโลก พังงา และ สกลนคร