ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า การ ส่งออกไทย ในเดือน ก.พ. 67 ขยายตัวเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันที่ 3.6% เทียบช่วงเดียวกันกับในปีผ่านมา โดยปัจจัยที่มีผลต่อการส่งออกไทยในเดือนนี้ ได้แก่ การส่งออกสินค้าเกษตรขยายตัว 7.5% เทียบช่วงเดียวกันกับในปีผ่านมา อาทิ ข้าว จากปัจจัยด้านราคาและปริมาณและการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว 5.2% เทียบช่วงเดียวกันกับในปีผ่านมานำโดยการส่งออกคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ
นอกจากนี้ การส่งออกไปยังตลาดคู่ค้าสำคัญยังขยายตัวอยู่ เช่น สหรัฐฯ ยูโรโซน เป็นต้น ขณะที่การส่งออกไปจีนและญี่ปุ่นกลับมาหดตัวในรอบ 3 และ 2 เดือน ตามลำดับ จากการเร่งนำเข้าสินค้าให้ทันช่วงเทศกาลตรุษจีนของจีนในช่วงก่อนหน้า และภาคการผลิตของทั้งสองประเทศที่ยังซบเซา
นอกจากนี้ การส่งออกทองคำในเดือน ก.พ. 67 ขยายตัวสูง 309.5% เทียบช่วงเดียวกันกับในปีผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยด้านราคาและฐานที่ต่ำในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่งผลให้เมื่อหักทองคำการส่งออกไทยเดือน ก.พ. 67 จะขยายตัวอยู่ที่ 1.2% ทั้งนี้ แนวโน้มการส่งออกทองคำคาดว่าจะยังขยายตัวเป็นบวกตามแนวโน้มราคาที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนของปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่ และทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลักของโลกที่อาจปรับลดลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2567
การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไทยในปี 2567 คาดว่าจะได้รับอานิสงส์ตามรอบวัฏจักรความต้องการสินค้าในตลาดโลกที่ฟื้นตัว สะท้อนผ่านยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งเป็นชิ้นส่วนส าคัญในการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2566 โดยการ
ส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไทยเดือน ก.พ. 67 เพิ่มขึ้น 12.5% เทียบช่วงเดียวกันกับในปีผ่านมา ขยายตัวเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน และการส่งออกสินค้าสำคัญในกลุ่มดังกล่าว ที่ยังขยายตัวได้ดี ได้แก่ ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (HDD) อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์และไดโอด ขณะที่แผงวงจรไฟฟ้าหดตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันที่ -13.2% เทียบช่วงเดียวกันกับในปีผ่านมา จากการส่งออกไปตลาดฮ่องกงและสิงคโปร์ที่ลดลงจากความต้องการสินค้ากลุ่มหน่วยความจำในตลาดโลกชะลอตัวในเดือนก.พ. 67
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการภาพรวมการส่งออกไทยในปี 2567 อยู่ที่ 2.0% สอดคล้องกับการค้าโลกที่ปรับตัวดีขึ้นและความต้องการสินค้าหลายตัวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามแม้การส่งออก 2 เดือนแรกของปี 2567 ขยายตัวถึง 6.7% เทียบช่วงเดียวกันกับในปีผ่านมา แต่ในระยะข้างหน้า การส่งออกไทยอาจเติบโตชะลอลงเนื่องจากฐานที่สูงในบางเดือนประกอบกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนรวมถึงความไม่แน่นอนด้านความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังมีอยู่คงจะยังเป็นปัจจัยกดดันการส่งออกของไทยในปีนี้
