เฟดคาดสหรัฐต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 32 ล้านล้านบาทในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

716
0
Share:

นายเจอร์โรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด เปิดเผยว่า หากรัฐบาลสหรัฐไม่มีการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มากพอ จะทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเป็นไปอย่างอ่อนแอ ส่งผลให้เกิดภาวะความยากลำบากอย่างมากกับครัวเรือนอเมริกัน และภาคธุรกิจ ในทางตรงกันข้าม ความเสี่ยงในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐที่มีจำนวนมากเกินไปดูจะมีน้อยมากๆในขณะนี้ แม้ว่าในที่สุดแล้วฝ่ายการเมืองสหรัฐจะเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีมากเกินความจำเป็น ผลของมาตาการกระตุ้นเศรษฐกิจก็จะไม่เสียเปล่าแต่อย่างใด
.
ประธานเฟด กล่าวต่อไปว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะยิ่งแข็งแรงมากขึ้น และขยายตัวอย่างรวดเร็วขึ้น ถ้านโยบายการเงินของเฟดทำงานควบคู่ไปด้วยกันกับนโยบายการคลังของรัฐบาลสหรัฐ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมและกิจการทางเศรษฐกิจจนกระทั่งเศรษฐกิจสหรัฐมีสัญญาณที่ชัดเจนว่าหลุดออกจากภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เศรษฐกิจสหรัฐยังมีเส้นทางในการฟื้นตัวอีกยาวไกล โดยเฉพาะการฟื้นตัวของแรงงานชาวอเมริกัน ในไตรมาสที่ 2 แรงงานอเมริกันตกงานมากถึง 11.4 ล้านคน ในจำนวนครึ่งหนี่งของแรงงานที่เผชิญวิกฤตในไตรมาสที่ 2 ยังคงไม่มีงานทำที่ชัดเจน
.
นายเจอร์โรม พาวเวลล์ ประธานเฟด พูดถึงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ห่างจากความสมบูรณ์แบบในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และอาจพลิกผันตกต่ำลงหากไม่สามารถควบคุมโรคระบาดโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงภาวะการขยายตัวที่ไม่ยั่งยืน
.
ด้านนายแพททริค ฮาร์คเกอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ สาขาฟิลาเดลเฟีย สหรัฐ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังต้องการงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจอีกอย่างน้อย 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ต่ำกว่า 32 ล้านล้านบาท ในการฟื้นภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอย่างยั่งยืน
.
ทั้งนี้ ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ประเมินภาวะเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2563 จะชะลอตัว -3.5% ในขณะที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยูโรจะตกต่ำราว -7.9% ได้แก่ ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน จะเผชิญกับตัวเลขจีดีพีที่ตกต่ำถึง 2 หลัก