เมซี่ (Macy’s) หนึ่งในห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ และชื่อดังมาอย่างยาวนานถึง 166 ปีของสหรัฐอเมริกา ประกาศนโยบายลดค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่ด้วยการปลดพนักงานจำนวน 2,350 คน และปิด 5 สาขา โดยพนักงานที่เข้าข่ายถูกปลดออกจะอยู่ทั้งในสำนักงานใหญ่ และในสาขาของห้างเมซี่ทุกแห่ง สาเหตุจากต้องการตัดลดค่าใช้จ่าย และเร่งฟื้นยอดขายที่ชะลอตัวลงมาก
นายคริส แกรมส์ โฆษกห้างสรรพสินค้าเมซี่ เปิดเผยว่า ห้างเมซี่เตรียมใช้กลยุทธ์ใหม่ที่จะตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและภาวะตลาดขายปลีกที่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมซี่ตัดสินใจครั้งนี้ด้วยความยากลำบากที่ลดจำนวนพนักงานราว 3.5% ของพนักงานทั้งหมด เพื่อให้บริษัทได้กลายเป็นองค์กรที่มีโครงสร้างคล่องตัวมากขึ้น สำหรับ 5 สาขาที่ถูกพิจารณาปิดตัวลงจะอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐฟลอริดา และรัฐฮาวาย โดยจะปิดสาขาในช่วงต้นปีนี้
ห้างสรรพสินค้าเมซี่ปรับเปลี่ยนนโยบายและกลยุทธ์หลายด้านเพื่อเปลี่ยนผ่านห้างสรรพสินค้าในความเป็นตำนานถึง 166 ปี ให้กลายเป็นแบรนด์ห้างสรรพสินค้าใหม่ที่เข้ากันได้กับลูกค้าที่มีพฤติกรรมซื้อสินค้าออนไลน์ กำลังมองหาคุณค่า และเปลี่ยนไปหาคู่แข่ง อย่างเช่น อเมซอน(Amazon) และชีอิน(Shein) รวมถึงห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่เน้นกลยุทธ์ราคาชัดเจน เช่น ทาร์เก็ต และทีเจเอ็กซ์ ห้างสรรพสินค้าเมซี่ได้ยกเครื่องแบรนด์เมซี่ที่ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคของห้างเองด้วย เปิดร้านที่มีขนาดเล็กกว่าเดิมซึ่งอยู่นอกพื้นที่รัศมีของสาขาห้างแต่ละแห่ง นอกจากนี้ ยังมองถึงการขับเคลื่อนการเติบโตของห้างสรรพสินค้าเมซี่ในอนาคตกับเครือข่ายธุรกิจความสวยงามของแบรนด์บลูเมอร์คิวรี่ และห้างสรรพสินค้าบลูมมิงเดลด้วย
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ห้างสรรพสินค้าเมซี่เคยประกาศจะเปิดร้านขายปลีกขนาดเล็กจำนวน 30 แห่งตามชายขอบรัศมีพื้นที่ของสาขาแต่ละแห่งภายในเวลา 2 ปี เพื่อหวังจับกลุ่มลูกค้าที่อาศัยอยู่นอกเมืองที่ชอบซื้อสินค้าตามห้างขายปลีกขนาดใหญ่ตามชานเมืองมากกว่าที่จะเข้ามาซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในเมือง
